จากคดีที่มีมอเตอร์ไซคฺวิ่งบนฟุตบาท แล้วชนนักเรียนหญิงจากโรงเรียนหนึ่งบนถนนลาดพร้าว จนได้รับบาดเจ็บนั้น
มอเตอร์ไซค์ผู้ก่อเหตุ อ้างว่า "เพราะรถติดมาก จึงต้องขึ้นมาขี่รถบนฟุตบาทแทน"
ซึ่งต่อมามีสำนักข่าวทีวีหลายแห่ง ลองกลับไปตั้งกล้องถ่ายฟุตบาทบริเวณที่เกิดเหตุอีกในเวลาต่อมา ก็พบว่า ยังมีมอเตอร์ไซค์อีกจำนวนมาก ที่ยังวิ่งบนฟุตบาทเหมือนเดิมโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเลย
ซึ่งบังเอิญผมไปเจอความเห็นของผู้แสดงความเห็นท่านนึงในคลิปของเพจข่าวไทยพีบีเอสเหมือนคลิปยูทูปด้านบน
โดยเขาได้เล่าถึง ความเห็นของเพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงที่เขาเคยรู้จักเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ได้ให้ความเห็นถึงนิสัยการใช้รถใช้ถนนของคนไทยไว้อย่างน่าสนใจมาก
ผมจึงขอนำมาให้อ่านกันครับ
----------------------
โดยความเห็นคนญี่ปุ่นคนนั้น เขาพูดว่า
"คนญี่ปุ่นเราก็รีบตลอดเวลาเหมือนกัน แต่เราไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนไทย"
"พื้นฐานคนไทยไม่ใช่แค่เห็นแก่ตัว แต่กลัวคนรวยและชอบใช้กำลังแก้ปัญหา"
ผมนั่งคุยกับคนญี่ปุ่นคนนี้เรื่อง “พื้นฐานของชาติเขา คือการมีระเบียบวินัย แต่พื้นฐานของคนไทย คือ ความเห็นแก่ตัว“
ชาวญี่ปุ่นคนนี้เคยถูกส่งตัวมาทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว สุดท้ายก็ต้องหนีกลับประเทศ
ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาเคยเกือบโดนรถชนตายบนถนนบนทางม้าลาย และยังถูกคนขับรถเปิดกระจกตะโกนด่าเขาซ้ำ !
เขาเป็นคนหนึ่งซึ่งคิดเหมือนกันว่า พื้นฐานของคนไทย คือความเห็นแก่ตัว
เช่น คนไทยต้องคอยขยับรถทีละนิด ๆ เพราะกลัวว่าตนจะถูกคนเอาเปรียบ นี่คือสภาพถนนกรุงเทพ ฯ ที่คนญี่ปุ่นสังเกต
“ถ้าไม่รีบขยับรถไปข้างหน้า จะมีคนเห็นแก่ตัวหาทางโกงคุณเสมอ”
คือสิ่งที่เขาบอกผมมา หมายถึง รถซ้ายขวาที่จ้องจะแย่งเข้าเลน แม้ว่ามันจะขยับไปทับเส้นขาว แล้วขวางทางรถพยาบาลหรือไปหยุดกลางสี่แยก กั้นไม่ให้ทุกคนได้ไป คนไทยก็จะทำโดยไม่ลังเล และ คนไทยยังสามารถจอดรถซื้อของในที่ห้ามจอดบนทางเท้า หรือจอดทั้งที่รถติด ๆ โดยไม่เคยสนว่ารถคันหลังจะมีธุระด่วนแค่ไหน”
แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีแบบนี้ แม้เรารีบตลอดเวลา แต่ว่า “เราไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนไทย”
และ “ที่บ้านเราต่อคิวได้อย่างสบายใจ เพราะรู้ว่าใครมาก่อนก็ต้องได้ก่อน ไม่มีใครคอยจ้องจะเอาเปรียบกัน”
นิสัยคนไทยชอบกลัวคนรวย แต่กลับไม่กลัวกฏหมาย ! ดังนั้น "คนรวยจึงมักอยู่เหนือกฎหมายและคนจนในประเทศนี้"
เขาเห็นด้วยกับผมอย่างมากเรื่องนึงคือ คนไทยโดนหลอกให้ใช้สะพานลอยทั้งที่เมืองนอกไม่จำเป็น !
ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งคุณภาพชีวิต ทั้งคุณภาพจิตใจ เราจะไม่เห็นสะพานลอยในเมือง เพราะรถทุกคันต้องหยุดให้คนข้ามตรงทางม้าลายอยู่แล้ว
ไม่มีเหตุผลที่จะไล่คนท้อง คนพิการและคนชราให้ปีนขึ้นสะพานชัน ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ราคาแพง
เมื่อผมบอกเขาว่าทันทีว่า “ถ้าไม่ข้ามสะพานลอยแล้วรถชนตาย คนจะสมน้ำหน้าให้”
คนญี่ปุ่นขำแล้วบอกว่า “เพราะคนไทยขี้กลัว” ไม่กล้าโวยใส่คนรวยแม้เขาจะทำผิดกฏหมาย แต่ยอมปีนบันไดชัน ๆ ดีกว่า เพื่อให้คนรวยเขาอยู่สบาย ๆ เหนือกฏหมายต่อไป
“…แต่ผมก็เข้าใจเพราะคนไทยชอบใช้กำลัง !“
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนญี่ปุ่นที่อยู่เมืองไทยมานานมากพอ
“ทันทีที่คนไทยแพ้หรือรู้สึกเสียหน้า จะหาทางใช้กำลัง” ทั้งที่ตัวเองเป็นคนผิด
แต่ “คุณลองคิดว่าถ้าวันนั้นที่ผมข้ามทางม้าลาย แล้วถูกคนเปิดกระจกรถตะโกนด่า แต่ถ้าผมยืนยันจะเอาเรื่องจริง ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ คนขับ Taxi จะโมโหแล้วลงมาต่อยผม หรืออาจชักมีดที่ซ่อนไว้เสียบผมตายกลางสี่แยก”
ก็เพราะกฏหมายไทยไม่ช่วยอะไร ทำให้ทุกคนยิ่งต้องเห็นแก่ตัวไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ถูกคนอื่นมาเอาเปรียบกัน
“พื้นฐานคนไทยอาจไม่ใช่คนเลว” คือสิ่งที่เขาพูดก่อนจะโบกมือลา แล้วทิ้งท้ายว่า
“เมืองไทยมักไม่มีที่ยืนให้คนทำดี”
----------
สรุปท้ายบทความ
นั่นเป็นเพียงความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นคนนึง ที่เคยทำงานในไทยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน
เราไม่จำเป็นต้องเชื่อเขาก็ได้ เพราะเวลามันผ่านมาหลายปีแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว
แต่ที่แน่ ๆ เรามองประเทศของเราเองในวันนี้ เราคิดว่า การจราจรของไทย ระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เรารู้สึกอย่างไร นั่นแหละคือคำตอบในใจเราทุกคน
คลิกอ่าน ลดจำนวนคนตายจากอุบัติเหตุบนถนนไทยต้องเริ่มต้นแก้ที่