วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556
"ประชาธิปไตย ความรักชาติ ชาตินิยม" ในทัศนะสว.รสนา
เกริ่น
ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องไม่ใช่รวยกระจุก จนกระจาย สำหรับความคิดผมนะ แค่กฎหมายภาษีที่ดินที่ควรรีบปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะที่ดินที่ไม่ทำประโยชน์ที่พวกอสังหาริมทรัพย์ เช่น เอสซีแอสเสท หรือ แสนสิริ หรือ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่มักไปกว้านซื้อที่ดินมาเก็บตุรไว้ นั่นแหละ ควรแก้ภาษีที่ดินก่อนเถอะ ถ้าหากรัฐบาลจริงใจ และต้องการกระจายรายได้จริง ๆ
ส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อกับแบบแบ่งเขต ชุดปัจจุบัน (สส.ที่มาจากการเลือกตั้งใหญ่พ.ศ.2554) จำนวน 421 คน มีพื้นถือครองรวม 10,874,348.14 ตารางวา หรือ 27,185 ไร่ มูลค่ากว่า 15,794 ล้านบาท ถ้าคิดเฉลี่ยคนที่ถือครองที่ดินสูงสุดอยู่ที่ 810,504 ตารางวา หรือ 2,026 ไร่ มูลค่ากว่า 2,699 ล้านบาท
เพราะการกักตุนที่ดิน คือการเก็งกำไรที่ดินให้แพงขึ้น คนที่มีโอกาสน้อยจะยิ่งซื้อบ้านแพงมากขึ้น คนจนจะยิ่งไร้ที่ดินเป็นของตัวเองมากขึ้น ก็เพราะการกักตุนที่ดินของบรรดาเศรษฐีนั่นเอง
ฟังผมบ่นแล้ว ลองอ่านมุมมองสว.รสนา โตสิตระกูลอธิบายเรื่องประชาธิปไตยที่แท้จริงครับ
-----------------------------
ทัศนะจากเพจ สว. รสนา โตสิตระกูล
ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง
@อัมราภรณ์ เพ็รชจันทร์ มีนักวิชาการชาวเยอรมันด้านสังคมวิทยาการเมืองสายมาร์กซิส ชื่อ Claus Offe กล่าวว่าหลังยุคสงครามเย็น มีการก่อตั้งสถาบันพันธมิตรร่วมความมั่นคงและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ( Growth-Security Alliance ) ซึ่ง เป็นการจับมือกันระหว่างนายทุนผูกขาดและนักเลือกตั้ง โดยอาศัยความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจรัฐผ่านระบบการเลือกตั้ง
จากนั้นสามารถกำหนดการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งการเพิ่ม GDP เป็นหลัก บวกกับทิศทางการพัฒนาตามทฤษฎีน้ำล้นถัง (Trickle down) ทำให้มีการผ่องถ่ายความมั่งคั่งให้กับคนกลุ่มน้อยในสังคม เกิดสภาพ รวยกระจุก จนกระจาย อย่างที่เป็นในบ้านเรา
Claus Offe ยังกล่าวอีกว่าประชาธิปไตยที่เน้นระบบตัวแทนจากการเลือกตั้งแบบนี้ จะไม่ให้ความสำคัญกับการเมืองของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากร และวิถีชีวิตชุมชน นอกจากไม่ให้ความสำคัญแล้ว จะมีการทำลายเข่นฆ่าผู้ต่อสู้ ขัดขวางอีกด้วย
ประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง แต่ไม่มีการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจให้คนส่วนใหญ่ในสังคม ไม่สามารถเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
การเมืองแบบนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นลัทธิประชาธิปไตยบังหน้าของจักวรรดิทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยอาศัยกฎกติกา กฎหมายแทนการใช้อาวุธในการยึดครองทรัพยากรในท้องถิ่นนั้น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในยุคล่าอาณานิคมยุคแรกนั่นเอง
ทัศนะรักชาติ ต่างจาก ทัศนะเชื้อชาตินิยม
อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ พูดถึงทัศนะรักชาติ ( Patriotism ) ว่าเป็นทัศนะประชาธิปไตยซึ่งรักทุกเชื้อชาติและชนชาติที่ประกอบเป็น "ชาติ" เดียวกัน ครอบครองดินแดนประเทศเดียวกันคือปิตุภูมิ ( Patrie ) เดียวกัน มีความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจอันเป็นรากฐานของสังคมเดียวกัน ยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อชาติและปิตุภูมิเป็นส่วนรวม
"ทัศนะรักชาติ" ต่างจาก "ทัศนะเชื้อชาตินิยม" ที่เห็นว่าเชื้อชาติของตนเหนือกว่าคนอื่นจนนำไปสู่ "การคลั่งชาติ"
พวกที่อ้างความเป็น "สากลนิยม" แบบหลับหูหลับตา จะบอกว่าไม่มีชาติ สมัยแรกสุดเป็นความคิดของพวกคอมมูนิสต์ซ้ายจัด ที่ถูกครอบงำโดยลัทธิคอมมินเทิร์นของพวกโซเวียต ซึ่งแม้แต่เหมาเจ๋อตุงก็ไม่เห็นด้วย เพราะชาติยังคงต้องมีอยู่ สากลนิยมต้องควบคู่ไปกับความรักชาติ
ปัจจุบันลัทธิความไม่มีชาติ หรือสากลนิยมก็เป็นคำโฆษณาชวนเชื่อของพวกจักวรรดิทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ เพื่อดูดซับทรัพยากรและความมั่งคั่งของเมืองบริวาร เฉกเช่นเดียวกับจักวรรดินิยมคอมมูนิสต์ของโซเวียต ( คอมมินเทิร์น ) ที่ครอบครองเมืองคอมมูนิสต์บริวารในยุโรปตะวันออก ที่ถูกสูบทรัพยากรจนยากจนข้นแค้น จนภายหลังต้องแยกออกมาเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย เพราะทนการกดขี่ไม่ไหว
การช่วงชิงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นเกมของจักวรรดิทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ที่อาศัยกัมพูชาเป็นตัวแทน ( proxy ) ที่จะกลายเป็นสปริงบอร์ด เข้ามาครอบครองทรัพยากรปิโตรเลียมอันอุดมสมบูรณ์ในอ่าวไทย
และที่น่าเสียใจคือมีกลุ่มทุนการเมืองนายหน้าที่ไปสมยอม และชักศึกเข้าบ้าน
โปรดพิเคราะห์ดูว่ามีผู้นำใครบ้างที่เดินทางเข้ามายังดินแดนแถบนี้พร้อมกลุ่มทุนพลังงาน ?
เรื่องนี้วิเคราะห์ไม่ยาก คนจบ ป4 ที่รักชาติก็วิเคราะห์ออก ยกเว้นนักวิชาการ หรือนักการเมืองที่มีอคติจากความโลภ ความกลัว และความหลงเท่านั้นที่มองไม่ออกว่าจักวรรดิทุนนิยมโลกาภิวัฒน์กำลังเล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อช่วงชิง และครอบครองทรัพยากรปิโตรเลียมในแถบนี้อย่างไรบ้าง โดยที่ประชาชนคนไทยตาดำๆส่วนใหญ่จะไม่ได้ส่วนแบ่งจากผลประโยชน์มหาศาลเหล่านี้
สว.รสนา โตสิตระกูล
------------------------
ฟังชัดๆ ทักษิณบอกกำลังทำธุรกิจสัมปทานน้ำมัน และแก๊ส ที่เพื่อนคนนึงมาชวน (เพื่อนคนนั้นน่าจะหมายถึง ฮุนเซ็น)
ทักษิณไม่มีปัญญาทำธุรกิจเสรี มีแต่จะหากินแด.กกับธุรกิจสัมปทาน !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก