วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

คลิปทักษิณแร็พอีสานและคลิปผู้หญิงเสื้อแดง ฮาๆ

"akecity
"
ก่อนอื่นขอแซวการเมืองสักเรื่องก่อน!
.
ไข้หวัดหมู ฤาจะสู้ไข้หวัดหมา (จรจัด)

สีข้อความ
ไข้หวัดแม้วคือชื่ออย่างเป็นทางการของไข้หวัดหมา


อาการระยะเริ่มแรก อาการก็คือจะลุ่มหลงกับผลประยชน์ที่เขามอบให้(แต่ที่เขายักยอกชาติไปกลับมากกว่าหลายเท่า) แถมหลงยึดติดเสียจนละทิ้งเรื่องคุณธรรมและความถูกต้อง ขอแค่ที่เขาโกงไป แต่โยนเศษๆให้เราบ้างก็พอ


อาการของโรคระยะต่อมาคือ มัวเมาหลงรักคนชั่ว คลั่งไคล้ราวกับบิดาแท้ๆของตัวเอง ขนาดแม่แท้ๆขอร้องให้กลับบ้าน ก็ยังอกตัญญูไม่ยอมกลับ


อาการขั้นรุนแรงจะทำให้ผู้ป่วยอาจถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง ก่อจราจล ฆ่าคนตายได้ เพราะไข้หวัดแม้วมันแพร่กระจายสู่สมองแล้ว


อาการระยะสุดท้ายก็คือ ผู้ป่วยจะเนรคุณแผ่นดิน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เอาชาติมาเป็นตัวประกัน


ส่วนผู้ที่ติดเชื้อระยะฝักตัว ก็จะมีอาการแถไม่เลือก โกหกอย่างหน้าด้าน เอาศพมาหากินเป็นต้น



*****************************



หญิงไทยใจเด็ด ด่าทักษิณผ่านยูทูป
.
คลิกชมที่นี่ (มีคำแปลไทย)



***************************
.akecity

.

คลิปแม้วอยากกลับบ้าน ขำๆ









คลิปแม้วแร็บอีสาน กรุณาดูไปเรื่อยๆ ขำมาก









คลิปเสื้อแดงน่ารัก ฮากระจาย






"
"

บทความดีๆมติชน แฉสันดานชั่วทักษิณโดยไทยทน

บรรดาคอลัมภ์นิสต์ในมติชนแล้ว ไทยทนคือนักเขียนที่เสื้อแดงและคนรักทักษิณเกลียดที่สุด เพราะไทยทนแฉทักษิณได้ดีจนพวกคนรักทักษิณที่เข้ามาในมติชน ไม่เคยหาข้อมูลหลักฐานแย้งไทยทนได้เลย

เห็นมีแต่เข้ามาด่าไทยทนเท่านั้น ด่าแบบเสียหาย โดยไม่มีอะไรมาหักล้าง ผมเองชอบอ่านเหตุผลของทุกฝ่าย แต่ต้องยอมรับว่า ฝ่ายรักทักษิณที่ผมไปอ่านจากหลายๆสื่อ มั่วและหลักฐานที่ทำให้ผมยอมรับนั้น หายากจริงๆ มีนะข้อมูลดีๆของฝ่ายรักทักษิณ แต่เรื่องหลักๆสำคัญๆที่จะแก้ต่างให้ทักษิณนั้นอ่อนจริงๆ

------------------------


ใครต้องการระบอบประชาธิปไตยมี "ทักษิณ" เป็นผู้นำ ยกมือขึ้น

โดย ไทยทน

"ทักษิณ" แสดงการเคลื่อนไหวระดับ “ไพ่ใบสุดท้าย” ออกมาแล้ว ทำให้เห็นธาตุแท้ว่า เป็นเพียง "แม่ทัพขี้ขลาด หลอกชาวบ้านผู้ภักดี ให้เสียสละเพื่อตัว ทำร้ายประเทศชาติแผ่นดินแม่เพื่อตัว สร้างความวุ่นวาย ทำลายความสุขและเกียรติภูมิของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อตัวจะได้กลับมายึดอำนาจ" ดูเหมือนระบอบการปกครองที่ทักษิณต้องการ คือ “ระบอบประชาธิปไตยมี “ทักษิณ” เป็นผู้นำ แต่น่าจะถามคนไทยสักนิดว่าใครต้องการบ้างให้ยกมือขึ้นเสียก่อน

ซึ่งคนไทยก็น่าจะได้ทบทวนถึงตัวตนของทักษิณเสียก่อน ดังนี้

1. ความเป็นคนโกงชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวตั้งแต่ก่อนเข้าอำนาจ : ทักษิณอ้างได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็น "วีรบุรุษ" ผู้ชำระเงินคืนไอเอ็มเอฟ ทั้งๆที่ตนเป็นรองนายกฯในรัฐบาลบิ๊กจิ๋วพาชาติเข้าวิกฤต ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2540 เพียง 1 วันหลังจากที่ รัฐบาลลงนามใน LOI ฉบับที่ 1 ซึ่งจะแก้ตัวอย่างไรก็ยาก

เพราะตามข่าวแล้ว ทักษิณเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลบิ๊กจิ๋ว มาโดยตลอด โดยเฉพาะ วันที่ 21 มิถุนายน 2540 ได้ให้นายทนง พิทยะ (อดีตกรรมการกลุ่มชินฯ) เป็นรมว. คลัง และวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ลอยตัวค่าเงินบาท

นายเสนาะ เลขาธิการพรรค ทรท. คนแรกเปิดโปงว่า ทักษิณรวยเพราะค่าเงิน เหมือนเผาบ้านเมืองเอาประกัน โดยเปิดโปงว่า "วันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กับประธานรัฐสภาที่เพิ่งหมดวาระไปไปหาหัวหน้าจิ๋ว คุยกุ๊กกิ๊กอะไรตนไม่รู้ แล้วในที่สุดให้ นายทนง พิทยะ มาเป็น รมว.คลัง เข้ามาไม่กี่วันก็ลอยตัวค่าเงินบาท จาก 26 บาท ขึ้นเป็น 50 บาท พี่น้องคนไทยเจ๊งเป็นเอ็นพีแอลทั้งประเทศ พอเสร็จภารกิจก็ลาออกเลย มาจัดตั้งรัฐบาลใหม่" ซึ่งก็เชื่อถือได้

เพราะนายเสนาะเป็นคนขายหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้ทักษิณ 500 ล้านบาท และเท่าที่พูดเป็นหลักฐานชัดเจนมากมาย ทักษิณก็ไม่เคยกล้าฟ้องหมิ่นประมาทนายเสนาะ จึงสะท้อนให้เห็นว่า เป็นคนที่หาทุกวิถีทางให้ตนเองร่ำรวย คนไทยทั้งประเทศจะเสียหายอย่างไรตนก็ไม่เคยสนใจ

พฤติกรรมการปล้นชาติ และปล้นธนาคารไม่หยุด เห็นได้จากการ "ลดหนี้" ชินวัตรไหมไทย การซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในชื่อนอมินี เช่นกลุ่ม น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี น.ส.บุญชู เหรียญประดับ นายชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ ฯลฯ

โดย นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ช่วยอธิบายแก้ต่างว่า
"ที่ต้องซื้อในชื่อคนรถ คนใช้ ก็เพราะสนามกอล์ฟอัลไพน์เป็น NPL จะทำให้เสียชื่อเสียง"

การที่ท่านซื้อมาแล้ว ไม่ปลอมเป็นว่าไม่มีเงิน และ ไม่"ชักดาบ" เจ้าหนี้เพื่อเอาส่วนลดจากธนาคาร ท่านก็ไม่เสียชื่อเสียงหรอก แต่การซื้อกิจการ NPL "ปลอม" เป็นไม่มีเงิน เอาส่วนลด คือปล้นธนาคารที่กำลังทรุดอยู่แล้วต่อไป เรียกว่า ประเทศและธนาคารกำลังจะเป็นศพอยู่แล้ว ยังดูดเลือดให้เป็นของตัวอยู่เลย

2. ความเป็นคนใช้อำนาจ โกงต่อไม่หยุด : เพียงเป็นรัฐบาลไม่เกิน 4 เดือนก็เริ่มลดส่วนแบ่งรายได้สัมปทานของภาครัฐ สำหรับระบบมือถือพรีเพด จาก 25-30% เป็น 20%

ปีถัดไป ออกพรก. ภาษีสรรพาสามิต แต่เปลี่ยนโครงสร้างสัมปทานของผู้ร่วมการงาน โดยแบ่งส่วนแบ่งรายได้ของ ทศท. ให้กลายเป็นส่วนที่เอกชนจ่ายภาครัฐในรูปภาษีสรรพสามิต แล้วเจตนารมณ์ของสัญญาแบบ Build-Transfer-Operate ซึ่งเมื่อครบ 30 ปี จะต้องโอนกิจการกลับมาเป็นของภาครัฐก็ถูกเปลี่ยนไป คือจะยึดไว้เป็นของตัวใช่หรือไม่ ? ทำให้ชาติเสียประโยชน์นับแสนล้านบาท

รัฐธรรมนูญจึงได้ห้ามรัฐมนตรีมีหุ้น โดยเฉพาะหุ้นสัมทานผูกขาด จะอ้างว่าโอนให้ลูกและคนใกล้ชิดแล้วก็ฟังไม่ขึ้น เพราะมีหลักฐานว่า 1 วันก่อนการโอนหุ้น นายพานทองแท้ ต้องทำสัญญาใช้เงินให้แม่ จำนวน 4.5 พันล้านบาทในวันที่ 31 สิงหาคม 2543 ซึ่งไทยทนติดตามคำอธิบายมานาน ก็ไม่เคยมีว่าเป็นค่าอะไร แต่เป็นหลักฐานที่ใช้เพื่อการโอนประโยชน์กลับมาให้ตนและภรรยา


รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐมนตรีเปิดเผยทรัพย์สิน แต่ขณะที่ถูกอายัดเงินค่าขายหุ้นในประเทศ ทักษิณกลับยังมีเงินไปซื้อสโมสรฟุตบอลแมนฯซิตี้ และมีท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดงมากมาย ต่อวีดีโอลิงค์ จ้างบริษัทพีอาร์ข้ามชาติ ด้านหนึ่งยุยงคนเสื้อแดงให้ป่วนบ้านเมือง แทบจะเผาบ้านเผาเมือง สร้างฉากเลวร้าย ทำลายไทย แล้วอีกด้านหนึ่งออกไปสื่อนานาชาติ ตำหนิการจัดการปัญหาเพื่อปราบปรามการก่อความไม่สงบ มันคงต้องใช้เงินที่มาก และจิตใจที่ต่ำ ไร้ความกตัญญูรู้คุณแผ่นดินจริงๆ จึงจะทำได้ขนาดนี้

เงินต่างชาติเหล่านั้น ก็เป็นหลักฐานเพิ่มถึงการทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ ? เป็นการสะสมจากการโกงอีกเท่าไร ? ตามข่าวก็อีกเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาท โกงชาติไปทั้งนั้นใช่หรือไม่ ? จึงไม่กล้าเปิดเผยให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

3. ความเป็นคนไม่เคารพกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม : ศาลตัดสิน ผลเข้าทางตนเอง เช่นศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกรณีซุกหุ้นภาค 1 เรื่อง คนรถ คนใช้ ด้วยความเมตตา โดยศาลยอมรับฟัง "ความบกพร่องโดยสุจริต" แต่กลับทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังซุกหุ้นในนามคนใช้ถูกจับได้ กลับมาซุกในนามลูกและคนใกล้ชิด แอมเพิลริช วินมาร์ค ฯลฯ

แต่เมื่อผลตัดสินตรงๆ เอาผิดท่าน เช่น กรณีที่ดินรัชดา หรือภรรยาโอนหุ้นให้นายบรรณพจน์โดยนิติกรรมอำพราง ท่านกลับบอกว่าเป็น “กระบวนการยุติความเป็นธรรม” และถือว่ารับไม่ได้

4. ความเป็นนักเผด็จการในคราบนักประชาธิปไตย : ปากกล่าวอ้างว่ารักประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ แต่เผด็จการแบบ รสช. ตนได้ประโยชน์เพิ่มสัมปทานมือถือ สัมปทานดาวเทียม ก็ยินดียิ่ง รัฐประหารแบบประชาชนต่อต้านเช่นสมัยพฤษภาทมิฬ โดย พลเอก สุจินดา ก็ดูสนิทกันดี ... แต่รัฐประหารที่ไม่ได้มาเพื่ออำนาจส่วนตัวแบบ คมช. ซึ่งลงจากอำนาจในปีเดียว ทำให้ชาติไม่วิกฤตไปพร้อมโลก กลับรับไม่ได้

การต่อสู้ทุก "กติกา" จะรับได้เมื่อสามารถทำให้เป็น "กติกู" ได้ เลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญชนะ ก็รับได้ สภาฯ เลือกตนเอง เลือกโนมินีของตน เช่น สมัคร สมชาย ก็รับได้ แต่เมื่อสภาฯเลือก นายอภิสิทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญ (ปี 40 หรือ 50 ส่วนนี้ก็คล้ายกัน) ก็กลายเป็นรับไม่ได้

5. ความเป็นคนโหดร้าย เลือดเย็นกับคนไทย และชาติไทย : เมื่อมีปัญหาในภาคใต้ มีการ "อุ้ม" ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายมุสลิม ผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน หายตัวไปในวันที่ 12 มีนาคม 2547 ก็นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเหตุการณ์น่าสลดใจ กรือเซะ และ ตากใบ 3-4 จังหวัดภาคใต้ ก็สงบสุขมาหลายปี กลับลุกเป็นไฟ กลายเป็นปัญหาบานปลายให้กับสังคมโดยรวมในยุคทักษิณ

ในการเคลื่อนไหวที่แตกต่างของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เผา ไม่ทำลาย แต่รัฐบาลทักษิณและโนมินี มักจะใส่ร้ายว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และหาเรื่องจัดการด้วยความรุนแรง เช่นระเบิดแก๊ซน้ำตาขาขาด เด็กสาวอย่างน้องโบว์ต้องเสียชีวิต ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรร้ายแรง และพยายามอย่างยิ่งที่จะโยงระหว่าง ปชป. กับพันธมิตร ทั้งๆที่ นายกฯ อภิสิทธิ์ก็ไม่เคยขึ้นเวทีของพันธมิตร และ ผู้นำม็อบอุดมการณ์อย่างสนธิและจำลอง ก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไร

แต่ท่านนำม็อบเอง ยุยงเอง จนม็อบของท่านขัดขวางจราจร ล้มการประชุมระหว่างประเทศ สร้างความลำบากให้ประชาชนและประเทศ เผาทรัพย์สิน สร้างภาพลบให้การท่องเที่ยวไทย และคนเสื้อแดง ก็เริ่มฆ่าคนไทยกันเองที่เป็นคนบริสุทธิ์แท้ๆ

สภาพที่ท่านไร้ความรักแท้ต่อแผ่นดินไทย กดทุกคนใต้อำนาจของท่าน พร้อมที่จะสละชาติเพื่อตนเองได้ทุกเมื่อ ทักษิณเป็นผู้นำชาติที่ขี้ขลาด ยุยงให้คนแตกแยก ทำร้ายกันเอง และออกข่าวให้ต่างชาติดูถูกคนไทย ถึงเวลา บ้านเมืองจะวอดวายก็ไม่ใส่ใจ คนไทยจะมีความสุขช่วงสงกรานต์ก็ไม่ได้ ชาติไทยจะต้องฟื้นตัวจากสภาพเศรษฐกิจโลกก็ไม่สนใจ พร้อมจะเผาบ้านเผาเมือง

สัญญาณที่ท่านบอกว่า ออกมากันเยอะๆ “ถ้าวันใดเสียงปืนแตก ผมจะกลับมานำประชาชนเอง” แล้วคนถูกท่านหลอกมีจำนวนน้อยไป บ้านเมืองวอดวายน้อยไป และวุ่นวายน้อยไป หรืออย่างไร ท่านจึงไม่กลับมาเสียที

แล้วเป้าหมายในใจท่าน จะอยากเห็นคนตายเท่าใด บ้านเมืองวุ่นวายเท่าใด วอดวายเท่าใด จึงจะเป็นสถานการณ์ให้ท่านกลับมานำประชาชนได้ เป็นผู้นำที่คนไม่เห็นด้วยต้องกลัวเดือดร้อน และคนที่จะรับใช้ ควรต้องคิดหลายรอบว่าจะเป็นทาสให้หลอกใช้ หรือหลอกให้ตายแทนตลอดชีวิตหรือไม่ ? เหมือนหลายๆคนที่ท่านถือว่าดีเมื่อรับใช้ท่าน แต่กดดันมหาศาลเมื่อเขากลับใจตีจากท่าน ไม่ว่าจะเป็น จำลอง สนธิ พิภพ ปุระชัย เนวิน ฯลฯ

ดูพฤติกรรมเผด็จการของท่านแล้ว ช่างยากที่จะยอมรับให้ท่าน "ยึดอำนาจ" จริงๆ เพราะดูแล้ว จะไม่ต่างกับเผด็จการพม่า หรือเขมรเลย แล้วไทยเราจะต้องทรุดไปขนาดนั้น เพราะคนนี้คนเดียวหรือ

ในความยากของสถานการณ์สงครามกลางเมือง มันสะสมโดยคนทำเลว ยุยงคนไทยให้แตกแยกมายาวนาน และกว้างขวาง จะทำให้สงบสุขดีเหมือนเดิมก็คงยาก และต้องใช้เวลา ภาครัฐจะรุนแรง ก็จะถูกนำไปใช้ตอกลิ่มให้แตกแยกมากขึ้น จึงเป็นสงครามที่ยากกว่าปกติ เพราะคนไทยดีๆ ก็ไม่อยากทำร้ายคนไทยกันเอง

คนไทยอาจต้องช่วยกัน ให้กำลังใจกันและกันเป็นพิเศษ และให้กำลังใจผู้นำในการทำศึก ช่วยกันชี้เบาะแส และหากพอช่วยตัวเองได้อย่างปลอดภัย เช่นการเลื่อนอุปกรณ์ขวางถนน โดยไม่ต้องทำร้ายกัน ก็ช่วยกันไป แต่ก็ต้องระวังตัวกันและกันด้วย

แต่ไทยทนเชื่อว่า ในทุกสงคราม ทุกคนต้องช่วยกัน หากเราหวังสงบ โดยให้คนอื่นรบแทน และไม่ช่วยกัน เราก็จะอ่อนแอ และพ่ายแพ้ได้ครับ

และหากจำต้องจำนนกับอำนาจมาเฟีย ได้มาด้วยการสร้างความเดือดร้อนให้ชาติ ใครอยากได้ก็ยกมือขึ้นครับ สื่อมวลชนท่านใดยังอยากขายวิญญาณรับใช้มาเฟียนี้มาเป็นผู้นำก็ยกมือขึ้นได้ครับ

ไทยทนขอไม่ยกมือยอมรับคนหนึ่งครับ


วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

หมอลักษณ์ธงขาดวิ่นบนเวทีคนเสื้อแดง,แบทแมนฮีโร่ตัวจริง)




ในวันที่12เม.ย.ที่ผ่านมา หมอลักษณ์ ฟันธง ได้ขึ้นเวทีเสื้อแดง เพื่อฟันธงว่า รัฐบาลทรราชย์จะล้มภายในวันที่20เม.ย. พร้อมอวยพรคนไทย(เสื้อแดง)ที่รักชาติ รักพระเจ้าอยู่หัว รักประชาธิปไตยให้ชนะศึก!
(งั้นทีพ่ายแพ้ก็คงรู้แล้วสินะ ว่าตอแหล!)

มาถึงตอนนี้ หมอลักษณ์ก็คงร้แล้วสินะ ว่า ใครมันคือ ทรราชย์ตัวจริง?

อุตส่าห์อัญเชิญพระสยามเทวาธิราช อัญเชิญพระนเรศวร พระเอกาทศรถ อัญเชิญเทพเทวดามาปราบคนชั่ว สาปแช่งคนชั่วให้พินาศพ่ายแพ้ พร้อมบอกเวลาด้วยฤกษ์ออกศึก ยกทัพลุย! ด้วยรถแก๊ส!
.
แถมหมอลักษณ์ยังแจกจตุคามรุ่นขายไม่ออกกว่าแสนองค์ให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดง

ได้ผลจริงๆเลยหมอลักษฺณ์ คนชั่ว คนไม่จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันคงได้พังเพราะคำสาปแช่งของหมอลักษฺณไปแน่ๆแล้ว คิคิๆ

สิ่งที่หมอลักษฺณ์ทำนายมีผิดอยู่หน่อยเดียวก็คือ ทรราชย์ที่หมอลักษณ์เข้าใจนั้น ไม่ใช่อภิสิทธิ์ หรือป๋าเปรม แบบที่หมอลักษณ์เข้าใจหรอกนะ ถึงวันนี้คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่า

ใครคือทรราชย์ตัวจริง? เพราะมันตอนนี้แทบไม่มีแผ่นดินจะอยู่แล้ว มันทำให้คนไทยแตกแยก แถมบังอาจถึงเบื้องสูง

ฟันธงได้แม่นจริงๆ ก๊ากๆๆๆๆๆ

อ่านข่าวหมอลักษณ์ขึ้นเวทีเสื้อแดง





หมอลักษณ์เอาจตุคามรามเทพ ที่ไปปลุกเสกถึงอินโดนีเซียมาแจก เพราะมันขายไม่ออกครับ เลยเอามาแจก!!


คลิกอ่าน ดวงทักษิณดีหรือดับ ขึ้นอยู่กับตัวทักษิณเอง


****************************
.
ปิดท้ายด้วย ความประทับใจกับแบทแมนฮีโร่ตัวจริงหน้าแฟลตดินแดง
.



.
.

อ่าน สงกรานต์เดือด คนกรุงเทพฯไม่เอาเสื้อแดง

.akecity

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

บทความดีๆจากมติชน ทักษิณ-เสื้อแดงจะหยุดทำลายแค่องคมนตรีหรือ?

.
.
เมื่อผมไปเจอบทความดีๆ ที่เขียนดี และมีความน่าสนใจ ก็อยากจะช่วยเผยแพร่ และพอดีได้เจอบทความดีๆจากมติชน เขียนโดยคุณนงนุช สิงหเดชะ เรื่อง
เป้าหมาย"ทักษิณ-เสื้อแดง" จะหยุดทำลายแค่"องคมนตรี"หรือ? ซึ่งเขียนได้ดีและมีเหตุผลน่าอ่าน จึงขออนุญาตร่วมเผยแพร่อีกทางครับ


*************************************


หลังจากนำร่องด้วยการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าได้ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอให้พระราชทานอภัยโทษแล้ว ลำดับต่อมาของการเคลื่อนไหวของนักโทษทักษิณก็ยังวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ สถาบันกษัตริย์และสถาบันองคมนตรี



ด้วยการกล่าวหาว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร และตามด้วยการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีคือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแม้ทางกลุ่มเสื้อแดงจะพยายามออกตัวว่าการวิจารณ์องคมนตรีสามารถทำได้ และพยายามอ้างว่าการพาดพิงองคมนตรีเป็นเรื่องที่แยกจากสถาบันเบื้องสูง



แต่ถ้าจะให้ถามจิตใจเบื้องลึกของแกนนำเสื้อแดงและคุณทักษิณแล้วคนเหล่านี้กล้าสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วหรือไม่ว่า ไม่ได้มีเจตนาจะให้กระทบกระเทือนต่อสถาบันเบื้องสูง กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เห็นได้จากหลายกิจกรรมของคนเสื้อแดงที่มีลักษณะกระทำในเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้รับรู้ว่าบุคคลที่พวกเสื้อแดงโจมตีหมายถึงใคร



เอากันให้ชัดก็คือการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเมื่อปลายเดือนธันวาคม (ที่จริงการชุมนุมก่อนหน้านี้ที่สนามหลวงก็มีเหตุการณ์ลักษณะจาบจ้วงเบื้องสูงอยู่หลายครั้ง เช่นกรณีนางดา ตอร์ปิโด) เพื่อต่อต้านไม่ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในครั้งนั้นมีการนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปวางไว้บนเวทีคู่กับข้อความที่ไม่เหมาะสม



และต่อมาเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ในการชุมนุมท้องสนามหลวงก่อนย้ายไปปิดล้อมทำเนียบ ถามว่ากิจกรรมที่คนเสื้อแดงทำในวันนั้นคืออะไร ข้อความที่พวกคนเสื้อแดงพูดออกมาหมายถึงอะไร



การเชิญนายใจ อึ๊งภากรณ์ ไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง และต่อมาไม่นานนายใจออกแถลงการณ์ใส่ร้ายพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง ถามว่านายใจกับคนเสื้อแดงไม่ใช่ขบวนการเดียวกันที่มีวัตถุประสงค์เดียวกันเช่นนั้นหรือ



ทำไมเมื่อนายกษิต ภิรมย์ ไปขึ้นเวทีพันธมิตรกลับถูกพรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงรุมถล่มอย่างหนักเมื่อมาเป็นรัฐมนตรี โดยอ้างว่าเป็นขบวนการเดียวกับกลุ่มพันธมิตร



หากใช้ตรรกะเดียวกันนี้เสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถพูดได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับนายใจ เห็นแกนนำเสื้อแดงออกมาไล่บี้พล.อ.สุรยุทธ์ว่า ถ้ากล้าทำต้องกล้ารับ จึงอยากถามกลับไปยังเสื้อแดงด้วยว่าเสื้อแดงจะกล้ารับในสิ่งที่ทำหรือเปล่า อย่าทำเป็นอีแอบอย่างที่กล่าวหาคนอื่น เพราะอย่างนายใจก็เผ่นไปอยู่อังกฤษ



แกนนำเสื้อแดงพยายามใช้โอกาสนี้กดดันให้ พล.อ.เปรมและ พล.อ.สุรยุทธ์ ลาออกจากองคมนตรี อ้างว่าเพื่อรักษาสถาบันกษัตริย์ แต่ถามว่าเป้าหมายของเสื้อแดงอยู่แค่การโจมตีองคมนตรีเป็นรายบุคคลจริงหรือ?



เพราะขนาดนายสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรีอีกท่านหนึ่งออกมายืนยันว่าองคมนตรีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร ยังถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงหาเรื่องจับแพะชนแกะเอาอีกว่า นายสวัสดิ์เป็นบิดาของนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ในความเป็นจริงนายปณิธานเป็นบุตรของนายมงคล วัฒนายากร



ถามว่าถ้า พล.อ.เปรมและ พล.อ.สุรยุทธ์ ลาออก เสื้อแดงจะเลิกกล่าวร้ายโจมตีองคมนตรีรายอื่นหรือไม่ ถ้าประธานองคมนตรีเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พล.อ.เปรม เสื้อแดงจะเลิกโจมตีหรือไม่

ความไม่พอใจของเสื้อแดงต่อองคมนตรีอยู่ที่ไหน อยู่ที่รายบุคคล หรือไม่พอใจเพราะองคมนตรีคือผู้ถวายคำปรึกษา กลั่นกรองงาน เป็นผู้ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ



ถ้ากำจัดสถาบันองคมนตรีออกไปได้ คงไม่มีก้างขวางคอนักการเมืองที่ประพฤติมิชอบเช่นนั้นหรือเปล่า การมุ่งทำลายองคมนตรี คงหนีไม่พ้นที่จะถูกตีความไปว่า ไม่ต้องการให้พระมหากษัตริย์มีคณะบุคคลคอยถวายคำปรึกษาเพื่อให้ทรงรับทราบความเป็นไปของบ้านเมือง ต้องการตัดสะพานเชื่อมระหว่างสถาบันกษัตริย์กับประชาชน เพื่อลดอำนาจและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ลง



หากบันไดขั้นแรกของเสื้อแดงสำเร็จคือสามารถกดดันให้องคมนตรีลาออกได้ ก็เท่ากับว่าคนเสื้อแดงประสบความสำเร็จในการกดดันสถาบันเบื้องสูงไปด้วย นี่คือการหยั่งเชิงขั้นแรกของกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ อย่าหลงตามเกมของคนเหล่านี้ด้วยการลาออกเป็นอันขาด อย่าเป็นสุภาพบุรุษกับพวกที่ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ต้องเล่นบทบู๊บ้าง



คุณทักษิณบอกว่าองคมนตรีไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวการเมืองได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามเอาไว้ แต่สิ่งที่คุณทักษิณไม่ยอมพูดถึงก็คือว่า ทำไมบุคคลในรัฐธรรมนูญอย่างคุณทักษิณที่สามารถยุ่งเกี่ยวการเมืองได้

ทำไมไม่ใช้อำนาจการเมืองไปในทางที่ถูกต้อง เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งนายกฯมีหลายสิ่งที่คุณทักษิณไม่สามารถเคลียร์ข้อกล่าวหาได้ ตั้งแต่การแทรกแซงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คดีซุกหุ้นภาคแรก มาจนถึงครั้งสุดท้ายก่อนการตัดสินคดีที่ดินรัชดาภิเษก ก็มีเงิน 2 ล้าน ไปตกหล่นอยู่แถวศาล ทำให้คนของคุณทักษิณติดคุกไป 6 เดือน



แต่แปลกที่เรื่องทั้งหมดนี้ทำไมไม่อยู่ในเนื้อหาการโทรศัพท์และการพูดผ่านจอภาพของคุณทักษิณเลย แกล้งลืมไปได้ไงเหตุที่บ้านเมืองย้อนหลังไป 30 ปีนั้นไม่ได้เกิดจากรัฐประหาร 19 กันยาฯเพียงอย่างเดียวอย่างที่คุณทักษิณกล่าวอ้างหรอก แต่สาเหตุหลักมาจากการใช้อำนาจมิชอบของคุณทักษิณนั่นเองจนทำให้บ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย



กล่าวสำหรับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่เรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ลาออกนั้น พล.อ.พัลลภต้องถามตัวเองว่ามีราคาอะไร ที่จะมาเรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ลาออก ทางที่ดีควรไปสำนึกบาปในคราวที่ทำงานร่วมกับคุณทักษิณจนทำให้ภาคใต้ลุกเป็นไฟ และเกือบถูกประเทศอิสลามทั่วโลกบอยคอตจากการยิงถล่มมัสยิดกรือเซะปัตตานี

พลเอกพัลลภอ้างว่าไม่พอใจที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีสัจจะเพราะไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหารจึงต้องออกมาแฉ



ถามว่าทำไม พล.อ.พัลลภมีความรู้สึกช้าอย่างมาก หากไม่พอใจทำไมไม่ออกมาพูดตั้งแต่ตอน พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่นี่เวลาผ่านไป 2 ปีแล้ว

เพิ่งมาพูดกล่าวสำหรับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้นยิ่งนานวัน หากไม่ประสบความสำเร็จในการไล่รัฐบาล ความเครียดจะยิ่งกดดันให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ



แบบเดียวกับที่เคยกล่าวหากลุ่มเสื้อเหลือง ดังนั้น ต่อไปเสื้อแดงคงไม่มีข้ออ้างมาเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับสิ่งที่เสื้อเหลืองเคยทำและยิ่งนานไปจะยิ่งประจานพฤติกรรมของฝ่ายเสื้อแดงให้สังคมได้เห็น ท้ายที่สุดก็นำความเสื่อมสู่พรรคเพื่อไทย

ขอบคุณมติชนออนไลน์ครับ

.
คลิกอ่าน บทความดีๆจากมติชน เรื่อง ทักษิณกำลังป่วย

.