สินค้ามาตรฐานเยอรมัน ขึ้นชื่อว่า ทนทานมีคุณภาพ แม้แต่รถยนต์จากเยอรมัน ก็ถือเป็นรถที่เหล่าคนรวยในไทยชอบใช้
เช่น รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือรถที่บ่งบอกถึงคนมีฐานะดีในไทย แต่ที่เยอรมัน เขาใช้รถเบนซ์เป็นรถแท๊กซี่ เพราะคุณภาพรถก็หมายถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเช่นกัน
ทีมชาติฟุตบอลเยอรมัน ก็ถือ เป็นทีมฟุตบอลที่รักษามาตรฐานได้ดีที่สุดในโลกชาติหนึ่ง เพราะไปบอลโลกรอบสุดท้ายเกือบทุกครั้ง จะยกเว้นแค่ฟุตบอลโลกครั้งแรกที่เยอรมันถอนตัว ในช่วงสงครามโลก และถูกแบนในฟุตบอลโลกปี 1950 ที่บราซิล หลังจากนั้นเยอรมันก็มาแข่งฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาตลอด จะเป็นรองแค่บราซิลเท่านั้น
ทำไมคนเยอรมันถึงมีคุณภาพ ทำไมประเทศเยอรมันจึงเจริญมากที่สุดในโลกชาติหนึ่ง
ต่อไปนี้ขอคัดลอกข้อเขียนของ มล.ปนัดดา ดิศกุล ซึ่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อีกหน้าที่หนึ่ง
---------------------
ทำไมเยอรมันถึงจะเจริญมากที่สุดในโลกชาติหนึ่ง
โดย มล.ปนัดดา ดิศกุล
มองเขา... มองเรา
"19 ข้อไขความลับ ทำไมเยอรมนีถึงเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ?"
/ Make me a German
สารคดี BBC ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวชาวอังกฤษ ที่ประกอบด้วยสามีซึ่งเป็นนักข่าว ภรรยาเป็นนักเขียน และลูกน้อยอีก 2 คน ที่ไปใช้ชีวิตในประเทศเยอรมนี เพื่อค้นหาความลับว่า อะไรที่ทำให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ภายหลังพ่ายแพ้สงคราม
โดยบทความนี้ Wegointer ได้แบ่งออกมาเป็น 19 ข้อด้วยกันว่า อะไรที่ทำให้ประเทศเยอรมนี เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
1) ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต
(akecity เสริม หลักการใช้เงินของมหาเศรษฐีส่วนใหญ่ในโลกใช้ ข้อหนึ่งก็คือ ไม่ใช่บัตรเครดิต ในขณะที่คนไทยบางคนรายได้เดือนละ 2 หมื่น ดันมีบัตรเครดิตเป็นสิบใบ คนไทยหนี้นอกระบบเพียบ กิจการคาร์ฟอร์แคชเอารถไปจำนำก็รุ่งเรือง)
2) ธนาคารเยอรมันไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่าย ๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่าย ๆ เช่นเดียวกัน
(akecity เสริม ธนาคารไทยอนุมัติให้คนที่มีรายได้น้อยใช้บัตรเครดิตกันแบบง่าย ๆ แถมถ้าคนไทยไม่มีบัตรเครดิต ก็ไปทำบัตรกดเงินสดกัน ทั้ง ๆ ที่การทวงหนี้ของบัตรพวกนี้ดอกเบี้ยโหดมากๆ)
3) คนเยอรมันสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน
(akecity เสริม คนไทยไม่ชอบออมเงิน ชอบใช้จ่าย แถมรัฐบาลไทยที่ผ่าน ๆ มาก็ไม่สนับสนุนการออมเงินของคนไทย มีแต่จะกระตุ้นให้คนไทยใช้เงินมาก ๆ จึงกลายเป็นว่า รัฐบาลไทยนี่แหละตัวดีที่กระตุ้นให้คนไทยเป็นหนี้)
4) ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี
(akecity เสริม คนไทยใช้เงินเกินตัว ไม่รู้จักพอเพียง ชอบตามกระแสนิยม ชอบอวดร่ำอวดรวยด้วยวัตถุภายนอก แถมผู้บริหารระบบการเงินของประเทศ คือ กนง. ดันชอบลดดอกเบี้ยเงินฝากลงปีละหลาย ๆ ครั้ง ยิ่งทำให้คนไทยไม่อยากออมเงิน)
5) คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่
(akecity เสริม ในขณะที่รัฐบาลไทยชั่ว ๆ ดันส่งเสริมให้คนไทยซื้อรถคันแรกโดยไม่จำเป็น ทั้ง ๆ ที่เมื่อคำนวณรายได้ต่อรายจ่ายแล้ว คนไทยจำนวนมากซื้อรถราคาแพงเกินตัวทั้งสิ้น กิจการคาร์ฟอร์แคช หรือ เอารถไปกู้เงิน จึงเจริญรุ่งเรือง)
6) คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า
(akecity เสริม คนไทยคิดอยากจะเจริญ แต่อยากทำงานน้อย ๆ ประเทศไทยจึงมีวันหยุดราชการมากกว่าชาติอื่น ๆ จึงทำงานน้อยกว่าเขา แถมประสิทธิภาพก็เริ่มน้อยลง
เท่านั้นยังไม่พอ รัฐบาลไทยยังชอบเพิ่มวันหยุดพิเศษติดต่อกันให้ยาวนานขึ้น เพื่อคนไทยได้ไปเที่ยว ไปใช้เงินให้เยอะ ๆ นี่คือวิธีคิดของ รัฐบาลพ่อแม่ตามใจลูกโดยแท้ คือ ไม่กระตุ้นให้ลูกรู้จักทำมาหากิน แต่กลับกระุตุ้นให้ลูกฟุ้งเฟ้อ ชอบเที่ยวเตร่)
7) การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
8) เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน อีเมลล์ส่วนตัว FB แชทไลน์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน
(akecity เสริม ตอนนี้คนไทยบ้าเล่นเฟสบุ๊คอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่รู้เล่นกันในเวลางานหรือเปล่า ลองถามตัวคุณดูซิ?)
9) นักข่าวชาวอังกฤษที่ไปทำงานในโรงงาน Faber & Castel ที่เยอรมนี ถูกต่อว่าจากเพื่อนร่วมงานทันทีที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อต้องการส่ง SMS แค่ครั้งเดียว
(akecity เสริม การใช้สมาร์ทโฟนของคนไทยในที่ทำงานคือ เรื่องปกติที่ใคร ๆ เขาก็ทำกัน)
10) ชีวิตในที่ทำงานเขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทาว่าร้าย ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร มี affair กับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน
(akeity เสริม การซุบซิบเรื่องของคนอื่น หรือ นินทาผู้อื่น คือ ความสุขของคนไทยชนิดหนึ่ง การพูดคุยเรื่องรายการทีวีเมื่อคืนนี้ ละครฮิตเมื่อคืนนี้ในเวลาทำงานคือสิ่งที่คนไทยชอบมาก จริงไหม?)
11) การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคน "ไม่รักษาสัญญา" จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพ เพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร
(akecity เสริม คนไทยมาผิดเวลา ผิดนัด จนเป็นเรื่องชาชิน คนไทยเรารับได้เสมอ ก็รถมันติดนี่)
12) สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่เยอรมนีมีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife ถือเป็นภริยาและมารดาที่สุดแสนประเสริฐของครอบครัว
13) รัฐบาลให้สวัสดิการที่ดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแก่ทุกชีวิตของเด็ก
(akecity เสริม คือ คนไทยรายได้จริง ๆ ของสามีมักไม่พอเลี้ยงลูกเมียน่ะ ผู้หญิงเลยจำเป็นต้องไปทำงานหาเงินอีกทาง แถมถ้าผัวทิ้ง ก็ยังเลี้ยงดูตัวเองได้)
14) ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping Mall จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง
(akecity เสริม จริง ๆ แล้ว สังคมของฝรั่งในยุโรปส่วนใหญ่จะชอบความสงบ ชอบอยู่บ้าน ไปดูกีฬาในวันหยุด ไปพักผ่อนในสวนสาธารณะ ต่างจากคนไทย สถานที่เที่ยวที่คนไทยชอบมากที่สุด คือ ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่)
15) ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
16) อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอดของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด
17) พนักงานทุกคนยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด
(akecity เสริม วัฒนธรรมรักองค์กร ดุจดั่งเครือญาติ ผู้คนในองค์กรเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ซึ่งเยอรมันก็เหมือนญี่ปุ่น ถ้าองค์กรคือบ้าน พนักงานก็คือลูกบ้าน เมื่อทุกคนรักบ้าน ก็จะเกิดความสามัคคีในองค์กรให้เข้มแข็ง เรื่องการซื้อตัวหัวกะทิของบริษัท จึงมักเกิดขึ้นน้อยใน 2 ประเทศนี้)
19) การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างภาคภูมิใจ
(akecity เสริม คนไทยชอบฟุ้งเฟ้อ เห่อตามกระแส ขี้อวด เป็นทาสเทคโนโลยี ไล่ซื้อมือถือรุ่นใหม่ ๆ ไร้ระเบียบวินัย ไม่ตรงเวลา เดี๋ยวนี้รักเงินมากกว่ารักชาติ รักคนโกงแต่ให้มากกว่ารักแผ่นดิน โดยเฉพาะพวกเสื้อแดง)