วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
กฎแห่งแรงดึงดูด vs กฎแห่งกรรม โดย ดังตฤณ
กฎแห่งการดึงดูด หรือ Law of Attraction
เป็นที่กล่าวถึงมานาน
แต่เพิ่งระยะหลังเป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้นมา
ก็ด้วยหนังสือดังคือ The Secret ของรอนดา เบิร์น
มีใจความย่นย่อที่สุดคือ
‘คิดอย่างไร ได้อย่างนั้น’
เช่น ถ้าคิดบวก จะได้เรื่องบวก ๆ
หรือมีคนคิดบวกด้วยกันถูกดึงดูดเข้าหา
ถ้าคิดลบ จะได้เรื่องลบ ๆ
เข้าตำราเกลียดอย่างไรได้อย่างนั้น
สิ่งที่ทำให้กฎแห่งการดึงดูดเป็นที่รู้จัก
คือขั้นตอน หรืออุบายปรับทัศนคติ
ซึ่งเมื่อทำตามแล้วได้ผล
ผลดีบางอย่างก็เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทันใจ
อย่างไรก็ตาม การนำความเชื่อบางอย่าง
เกี่ยวกับกฎแห่งการดึงดูดมาประยุกต์
ก็ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าเป็นไปได้หรือ
เช่น การสร้างจินตภาพผู้ชนะอย่างแน่วแน่
ในที่สุดต้องได้ชัยชนะเสมอไปหรือเปล่า?
ข้อเท็จจริงคือ ในการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากๆ
ต่างฝ่ายต่างก็ซ้อมมาดี
ถึงเวลาลงแข่งจริงก็มุ่งมั่น
และมีจินตภาพขึ้นแป้นหมายเลข ๑ เท่าๆกัน
ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ที่ ๑ เหมือนกันหมด
เพราะต้องมีเพียงคนเดียวที่พิชิตความเป็นหนึ่งได้สำเร็จ
นั่นหมายความว่า
แค่คิดมุ่งมั่นหรือจินตนาการแน่วแน่อย่างเดียวไม่พอ
ทักษะความสามารถต้องกินขาด
แล้ว ‘ดวง’ ในวันนั้นต้องดีด้วย
ถ้าดวงซวย ท้องร่วงเข้าส้วมไม่หยุด
นอนไม่ดี เส้นพลิกเดี้ยงคาเตียง
หรือเกิดอุบัติเหตุสุดวิสัยระหว่างเดินทาง
ต่อให้เก่งอย่างไรก็โดนจับแพ้วันยังค่ำ
บางคนโยงเรื่อง ‘ดวง’ มาเอี่ยวกับกรรมเก่า
ซึ่งก็ถูก แต่ถูกกว่านั้นคือแม้ ‘จินตภาพ’ หรือมโนนึก
ที่แท้ก็เป็นกรรมด้วย เรียกว่า ‘มโนกรรม’
อันว่ามโนกรรม ซึ่งนับเป็นกรรมใหม่นี้
เกี่ยวข้องกับเรื่องของอำนาจจิตอยู่ด้วย
เช่นที่ว่า เกลียดอย่างไรได้อย่างนั้น
ก็เพราะความเกลียดทำให้จิตยึดสิ่งที่เกลียดเหนียวแน่น
จะต้องได้ก่อกรรมกับสิ่งที่เกลียดบ่อย ๆ
เช่น บางคนตั้งตนเป็นศัตรูกับ รปภ.
ก็เจอ รปภ. กวนโอ๊ย
ต้องมีปากมีเสียงกับ รปภ. เรื่อย ๆ ไม่ซ้ำหน้า
อำนาจจิตนั้น ถ้าเข้มข้นพอ
พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
ดังที่พระองค์ตรัสบ่อย ๆ คือ
ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ
ให้เผาเมืองด้วยใจที่สำเร็จเตโชกสิณชั้นสูงก็ยังไหว
อย่างไรก็ตาม
ไม่ใช่ฤาษีสำเร็จฤทธิ์ที่ไหนนึกอยากเผาก็เผาได้
ถ้าเมืองมีผู้คน และวิบากกรรมของผู้คนเหล่านั้น
ยังไม่ถึงฆาต หรือยังไม่ถึงคราวเคราะห์ต้องไร้บ้าน
อภิญญาของฤาษีก็พัง รวมจิตเป็นสมาธิไม่ได้
หรืออีกทีก็ขาดใจตายไปเลย
เรียกว่าแพ้ภัยตัวเอง
ที่เจตนาร้ายกับคนที่ดวงยังดีอยู่
วิบากดีของพวกเขายังเป็นเกราะแก้วคุ้มภัยอยู่
ให้จินตภาพแจ่มจ้า อภิญญาใหญ่อย่างไรก็พ่าย
ว่ากันเรื่องดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้าหาตัว
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
คนทั้งหลายเข้ากันได้โดยธาตุ
คนเลวไปกันได้กับคนที่มีนิสัยเลวด้วยกัน
คนดีไปกันได้กับคนที่มีนิสัยดีงามด้วยกัน
(ธาตุโสสังสันทนสูตร)
กล่าวโดยย่นย่อ
มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม
จะจูนคลื่นจิต คลื่นชีวิตให้เข้าหาคนธาตุเดียวกัน
และผลักไสให้คนต่างธาตุออกห่าง
(อาจค่อย ๆ เป็นไป หรือพรวดพราดฉับพลัน ตามเหตุปัจจัย)
อย่างไรก็ตาม เช่น ถ้ากรรมเก่าส่งคุณไปอยู่เกาหลีเหนือ
ต่อให้คุณทำตัวเป็นประชาธิปไตยอย่างไร
ทำตัวเป็นแบบอย่างในทางยุติธรรมแค่ไหน
ขืนฮึดสู้ ลุกขึ้นป่าวร้องเรียกสิทธิมนุษยชน
ก็คงไม่เจอใครเอาด้วยง่าย ๆ
เพราะจะโดนจับยิงเป้าหมดเกลี้ยงภายใน ๒๔ ชั่วโมง
ทางเลือกที่เหลืออาจจะต้องทำกรรมใหม่
ในทางให้สิทธิความชอบธรรมแบบประชาธิปไตยกับใคร ๆ
รอตายแล้วเกิดใหม่ในประเทศที่ไม่เป็นเผด็จการ
หรือไม่ก็ภาวนารอคอยให้ระบบสืบทอดอำนาจเจ๊ง
ด้วยปัจจัยภายในหรือภายนอกถล่ม นั่นแหละค่อยยิ้มออก
หรือถ้าคุณเป็นคนดี มีศีลธรรมออกมาจากกลางใจ
อดีตชาติเคยเป็นคู่ครองกับใครบางคน
ที่ดีพอจะบันดาลใจให้นึกอธิษฐานขอครองคู่ไปทุกชาติ
เกิดใหม่ชาตินี้เลยดึงดูดใจให้ยอมลงหลักปักฐานด้วยอีก
แต่ชีวิตปัจจุบันของเขาหรือเธอ
ดันคบพาลเป็นมิตร คิดแต่เรื่องเลว ๆ
ทั้งรีดไถ ทั้งนอกใจ ทั้งปั้นน้ำเป็นตัว
ทั้งหยาบคาย ทั้งใช้ความรุนแรง
อันนี้ถ้าดูจากกฎแห่งการดึงดูดอย่างเดียว
นึกว่าทำตัวเป็นคนดีคงได้คู่ดี ก็คงเหลว
สรุปคือ กฎแห่งกรรมแบบที่พุทธเปิดเผยนั้น
เป็นเหตุเป็นผล ไม่ได้ขัดแย้ง แต่อธิบายได้ครอบคลุมกว่า
ดังเช่นที่คนเราชอบคบกันโดยธาตุนั้นถูก
แต่เมื่อใครมีธาตุแบบหนึ่ง ก็ไม่ใช่จะมีโอกาสเจอคนธาตุเดียวกันเสมอไป
ถ้ากรรมเก่ากรรมใหม่ให้ผลในแบบที่ไม่เอื้อ
แม้แต่ความรู้เกี่ยวกับดีเอ็นเอในปัจจุบัน
ก็ช่วยยืนยันกฎแห่งกรรมได้ชัด
เช่น ความถนัดที่มีมาก่อนเกิด น่าจะดึงดูดอาชีพแบบใด
ช่วงปีไหนในชีวิต ที่จะดึงดูดโรคร้ายเข้าหา
แนวโน้มที่จะหน้าตาดีร้าย มีสิทธิ์ดึงดูดคนเข้ามามากเพียงใด
ที่ผ่านมา จะคิดว่าตัวเองโชคร้ายขนาดไหนก็ช่าง
แต่มองให้เห็นเถิดว่า
ภูมิมนุษย์จะจัดเตรียมบางสิ่งที่ดี ๆ ไว้ให้คุณเสมอ
ภูมิมนุษย์คือโอกาสทองทางกรรมดี
ภพแห่งความเป็นมนุษย์ครั้งนี้ มีโอกาสรอดจากทุกข์
อย่างน้อยพุทธศาสนายังอยู่
ทางแห่งการดับทุกข์ยังเปิดกว้าง
เมื่อเห็นอย่างนี้ ปักใจเชื่ออย่างนี้ จินตภาพชัดอย่างนี้
ใจคุณก็เปิดสว่าง พร้อมฉายพลังกุศลออกมาเดี๋ยวนี้แล้ว!
บทความโดย ดังตฤณ
----------------------
มีคนถามคุณดังตฤณว่า
" ถ้าพื้นดวงเราบอกไว้ว่าคนเกิดปีนี้วันนี้ราศรีนี้ จะเจอเรื่องแย่ๆ เช่นเป็นคนที่ไม่สมหวังกับความรัก หรือพึ่งพาคนรักไม่ได้ ทำคุณคนไม่ขึ้น หรืออะไรอย่างนี้อะคะ เราสามารถเปลี่ยนดวงได้มั้ยคะ เปลี่ยนชะตาให้เป็นคนที่ทีความสุขเต็มร้อยบ้าง หรือเราต้องสร้างกรรมดีแล้วไปรับผลชาติหน้าเลย แล้วทำอย่างไรเราถึงจะพ้นวิบากกรรมจากเรื่องพวกนี้คะ"
คุณดังตฤณ ตอบว่า
"งัดข้อกับกรรมเก่า อาจเหนื่อย แต่เป็นไปได้ครับ ครูบาอาจารย์ทางโหราศาสตร์รุ่นเดอะก็สอนสานุศิษย์ไว้ ถ้าใครถือศีลได้สะอาดหมดจด ถ้าใครทำบุญช่วยคนเยอะ ๆทุกวัน จะทายอะไรให้แทงกั๊กไว้หน่อย เรื่องร้าย ๆ ที่ได้คิวนี่ ผิดคิวระเนระนาดหมด (เคยเห็นกับตานะครับ บางคนเกาหัว เสียเซลฟ์ไปเลยก็มี) "
---------------
ใหม่เมืองเอก สรุปบทความ
กฎแห่งกรรม คือกฎแห่งพระเจ้า เป็นต้นกำเนิดแห่งกฎทั้งปวงในสากลโลก
ดังนั้น กฎแห่งกรรม จึงเป็นยูเนี่ยนของทุกกฎ โดยมีกฎแห่งแรงดึงดูดเป็นสับเซ็ตในกฎแห่งกรรมอีกที
ในหลักของพุทธศาสนา ถ้าเราคิดดี ทำดี พูดดี เอื้อเฟื้อเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ นั่นแหละคือ กฎแห่งแรงดึงดูดที่จะดึงดูดโชคดีต่าง ๆ มาหาเรามากมาย
แต่ก็นั่นแหละ การควบคุมจิต การรักษาจิตให้คิดดีคิดบวกอยู่เสมอนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)