วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณว่าด้วยกบฎทั้งในและนอกประเทศ

.
วสิษฐ เดชกุญชร ชื่อนี้รับประกันว่าจงรักภักดีแน่นอน คนที่มีประวัติดีๆแบบท่านวสิษฐ เขียนอะไรคิดอะไร เราก็ควรรับฟังและคิดตามดู เพราะเชื่อว่าท่านคงซื่อสัตย์และหวังดีต่อชาติคนนึงครับ

----------------------
.akecity
ว่าด้วยกบฏทั้งในและนอกประเทศโดย วสิษฐ เดชกุญชร

ผมยังต้องเขียนเกี่ยวกับ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหนีโทษตามคำพิพากษาคดีอาญาไปอยู่ต่างประเทศ เพราะผมเชื่อว่า (พ.ต.ท.)ทักษิณยังมีเจตนาที่จะล้มล้างระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ผมได้เคยเขียนถึงการกระทำที่ส่อเจตนาดังกล่าวของ (พ.ต.ท.)ทักษิณมาแล้ว ขณะนี้ (พ.ต.ท.)ทักษิณยังไม่ยุติการกระทำเช่นนั้น แต่ยังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง

ตราบใดที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณยังทำเช่นนั้นอยู่ ตราบนั้นผมก็จะยังไม่หยุด แต่จะเขียนจะพูดต่อไป เพื่อให้ผู้อ่านที่เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเคารพสักการะยึดมั่นในพระมหากษัตริย์ ได้ตระหนักในเจตนาและการกระทำของ (พ.ต.ท.)ทักษิณ

พฤติการณ์ครั้งล่าสุดของ (พ.ต.ท.)ทักษิณปรากฏเมื่อวันที่วันที่ 27-28 มิถุนายนที่ผ่านมา ในการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" หรือ นปช. ที่ท้องสนามหลวง มีการถ่ายทอดคำพูดทางโทรศัพท์ของ (พ.ต.ท.)ทักษิณตามเคย คราวนี้สมุนผู้จัดการชุมนุมได้ถาม (พ.ต.ท.)ทักษิณว่าจะเหมาะสมหรือไม่หากมีการถวายฎีกาเพื่อให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้ (พ.ต.ท.)ทักษิณ เพื่อจะได้กลับมา "แก้ปัญหาให้บ้านเมือง"

(พ.ต.ท.)ทักษิณตอบว่า ต้องแล้วแต่ "พระมหากรุณาธิคุณ" ต่อจากนั้น สมุนผู้จัดการชุมนุมก็ประกาศจะรวบรวมรายชื่อผู้ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

คำว่า "โทษ" นั้นในทางอาญาหมายถึงมาตรการที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับลงโทษแก่ผู้กระทำผิดทางอาญา โทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 มี 4 อย่าง คือ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน

(พ.ต.ท.)ทักษิณต้องคำพิพากษาให้จำคุก แต่ยังไม่ได้มีการ "ลงโทษ" เพราะหนีออกนอกประเทศไปเสียก่อน เพราะฉะนั้น การพระราชทานอภัยโทษจึงเกิดขึ้นไม่ได้ จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อได้มีการ "ลงโทษ" คือ (พ.ต.ท.)ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาแล้วเท่านั้น

แต่ถ้าสิ่งที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณและสมุนต้องการคือการพ้นข้อหาทางคดีอาญา โดยไม่ต้องให้ศาลพิจารณาคดีเลย ไม่ว่าข้อหาหนึ่งข้อหาใดหรือทุกข้อหา ก็ไม่มีกฎหมายฉบับใดกำหนดให้เป็นพระราชอำนาจ และพระมหากษัตริย์ก็ทรงทำไม่ได้ เพราะไม่ทรงมีพระราชอำนาจเช่นนั้น

รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เมืองไทยเคยมีมา [รวมทั้งฉบับปี พ.ศ.2540 ที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณและสมุนชื่นชมว่าเป็น "ประชาธิปไตย" ที่สุดและร่ำร้องให้นำกลับมาใช้อีก] ไม่มีฉบับใดที่บัญญัติให้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจ สามารถยกข้อหาในคดีอาญาหรือคดีแพ่งแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลย ก่อนที่ศาลจะได้พิจารณาและมีคำพิพากษา

(พ.ต.ท.)ทักษิณเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนนั้นสอนทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา สมุนของ (พ.ต.ท.)ทักษิณทั้งที่เป็นทนายความ ส.ส.และอดีตรัฐมนตรีก็รู้กฎหมาย และบางคนยังหากินทางกฎหมายอยู่ ทุกคนรู้ดีว่าพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ แต่ทุกคนทำเป็นไม่รู้!? ไม่ได้โง่หรอกครับ แต่จงใจทำเป็นไม่รู้!!!

คนถามทำเป็นไม่รู้ว่าการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษทำได้หรือไม่ และคนตอบก็ทำเป็นไม่รู้ ตอบว่าแล้วแต่พระมหากรุณาธิคุณ

เป็นที่เห็นได้ชัดว่า วิธีตะโกนโพนทะนาเรียกร้องบ่อยๆ ซ้ำๆ ซากๆ โดยไม่แยแสว่าเหตุผลหรือความถูกต้องจะเป็นอย่างไรนี้ กำลังเป็นกลวิธีที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณและสมุนจงใจใช้ เพื่อให้ผู้ที่รู้เห็น (แต่ไม่มีเวลาจะศึกษา) เข้าใจผิดว่าทรงมีพระราชอำนาจ พระราชทานอภัยโทษแก่ (พ.ต.ท.)ทักษิณได้ แต่ทรงมีเจตนาที่จะไม่ใช้พระราชอำนาจนั้น

ในขณะเดียวกัน ก็ปล่อยข่าวมดเท็จอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจผิดมากยิ่งขึ้น เช่นที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฝรั่ง (ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา) ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบเรื่องรัฐประหารก่อนเกิดรัฐประหารในปี พ.ศ.2549 เป็นต้น

เมื่อดูจากข่าวมดเท็จที่กำลังแพร่อยู่ในขณะนี้ ทั้งในการชุมนุมบนเวทีของคนสวมเสื้อสีแดง ทั้งที่ปรากฏในสิ่งพิมพ์ ทั้งที่ส่งออกไปทางอินเตอร์เน็ต และทั้งที่ลอบเขียนอย่างหยาบคายในที่สาธารณะ ก็จะเห็นว่าสอดคล้องกัน จนน่าเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งในและนอกประเทศ โดยมีเจตนาที่จะทำลายพระมหากษัตริย์อันเป็นสถาบันที่คนไทยยึดถือเคารพสักการะมานานหลายศตวรรษ

ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 1 ถือเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ขณะนี้ (พ.ต.ท.)ทักษิณตกเป็นผู้ต้องหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว

แต่ถ้าจะดูความในประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ที่ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด 3 ที่ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ผมก็เชื่อว่า (พ.ต.ท.)ทักษิณและสมุนกำลังทำความผิดฉกรรจ์ตามหมวดนั้นๆ อยู่ด้วย

ผมขอคัดมาตราที่เกี่ยวข้องมาให้อ่าน แต่จะไม่แยกวรรค เพื่อสงวนเนื้อที่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ตรงที่น่าสนใจนั้น ผมได้ใช้ตัวพิมพ์หนาและขีดเส้นใต้ไว้ด้วย

หมวด 2 มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

หมวด 3 มาตรา 127 ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศ จากภายนอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ถ้าเหตุร้ายเกิดขึ้น ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือ จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สองปีถึงยี่สิบปี

ผู้มีตำแหน่งและหน้าที่ "รักษากฎหมาย" พิจารณาหรือยังว่า การชวนคนให้ลงชื่อในฎีกาเพื่อถวายขอพระราชทานอภัยโทษให้ (พ.ต.ท.)ทักษิณ เป็นการกระทำ "ภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ" และกระทำ "เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน" หรือไม่?

และการที่ผู้หนีโทษทางอาญาโทรศัพท์แล้วโทรศัพท์อีกจากต่างประเทศมายุยงส่งเสริมให้มีการกระทำเช่นนั้น เป็นการ "กระทำเพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศ จากภายนอก" หรือไม่?
.
.
(ขอบคุณบทความจากมติชนออนไลน์ โดยพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร)
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก