วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

อภิสิทธิ์เหน็บ!! กู้น้อยกว่าทักษิณ!!

.
.

จากไทยรัฐออนไลน์

ชี้แจงผลงานรัฐบาลผ่านเว็บไซต์ นายกรัฐมนตรี ฟุ้ง 1 ปี เศรษฐกิจฟื้น ผลงานเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง เหน็บกู้เงินน้อยกว่ารัฐบาลทักษิณ....

วันนี้(14 ม.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามประชาชนที่ยังไม่พอใจผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปี ผ่านเว็บไซต์นายกรัฐมนตรีไทย(www.pm.go.th) ว่า ตนก็ขอน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากเรียนว่าในการทำงานหนึ่งปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราได้เห็นแน่ชัดในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและพร้อมกับช่วยเหลือ ในเรื่องนโยบายที่ประชาชนสัมผัสว่าได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมเป็นจำนวนมาก เรื่องการเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ค่าตอบแทน อสม.

สำหรับใครที่เป็นห่วงเรื่องเงินกู้ อยากเรียนว่าได้มีการพูดคุยถึงตัวเลขในการกู้จำนวนมากนั้น จริงๆตัวเลขไม่ได้สูง เพียงแต่ในช่วงของรัฐบาลนี้ นำโครงการเงินกู้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฏรให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งย้อนกลับไปดูได้การกู้ในปีที่แล้ว

แม้การออกพระราชกำหนดในการกู้เงินน้อยกว่าบางปี ซึ่งเป็นปีที่ไม่ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ เช่นปี 2545 กู้ไปรวดเดียว 7 แสนล้านบาท แต่ว่าปีที่ผ่านมา กู้ไปแล้ว 4 - 5 แสนล้าน และเป็นเรื่องที่รัฐบาลทั่วโลกจึงต้องทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ

ในทางตรงกันข้ามถ้าไม่มีการกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีความเป็นไปได้สูง ว่าประเทศจะเป็นหนี้อยู่ดี รัฐบาลก็จะเป็นหนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ และการจัดเก็บรายได้ภาษีไม่ได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนอยากให้ความมั่นใจ

เมื่อถามว่าไม่รู้จะหารายได้มาใช้หนี้หรือไม่? เราเห็นผลแล้ว เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวขนาดนี้การจัดเก็บภาษีเกินเป้า เพราะฉะนั้นไม่ประเสริฐส่วนของหนี้สาธารณะการบริหารทางด้านการเงินการคลังได้ดูอย่าง รอบคอบ ระมัดระวัง มั่นใจได้ว่าจะไม่กระทบในเรื่องเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว.



ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/pol/58812


-----------------------------

สรรพากรเผย3เดือนแรกปี53รีดภาษีทะลุเป้า เพราะเศรษฐกินฟื้นตัว!!

นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในเดือน ธ.ค.2552 กรมสามารถจัดเก็บได้ 72,600 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6,813 ล้านบาท คิดเป็น 10.35% และสูงกว่าประมาณการ 12,400 ล้านบาท คิดเป็น 20.54%

โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาษีหัก ณ ที่จ่าย จากเงินเดือนและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้เพิ่มขึ้น จากค่าบริการและการจำหน่ายเงินกำไร และภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าและการบริโภคภายในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพการ ไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 53 (ต.ค.-ธ.ค.53) มีทั้งสิ้น 230,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,059 ล้านบาท คิดเป็น 1.35% และสูงกว่าประมาณการ 26,500 ล้านบาท คิดเป็น 13%


ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์
.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก