วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ป๋าเปลว สอนวิธีการแจกของบริจาคให้ทั่วถึง






เมื่อเรามีผู้บริหารที่เก่งแต่ด้านยุยงประชาชนใช้ความรุนแรง พอเมื่อต้องมาบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนกลับล่มปากอ่าว บ่มิไก๊ ไม่เป็นท่า ราวกับพวกผู้บริหารเหล่านี้เกิดมาเพื่อสอนคนเผาเมือง ไม่ได้เกิดมาเพื่อช่วยคนตกน้ำ!!

วันนี้ผมขอยกส่วนหนึ่งของบทความคุณเปลว สีเงิน ที่สอนวิธีง่ายๆไม่ซับซ้อนในการบริหารจัดการของบริจาคให้ได้ทั่วถึง

วิธีง่ายๆแบบนี้ แต่ศปภ.กลับคิดไม่เป็น

ส่วนเนื้อหาที่คุณเปลว สีเงินเขียนตามนี้ครับ

v

v

การบ้านที่ต้องทำ ข้อขณะนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ไม่ผ่าน" ซักข้อ เลิกคิดจะอาศัย "วิบัติภัย" เป็นโอกาสสร้างงาน-สร้างเงินบนซากประเทศ-ซากประชาชนเสียเถอะ ผมจะบอกให้ เรื่อง "ของบริจาค" ที่กลายเป็น "ของประจาน" รัฐบาล นปช.นั้น

การกระจายไปให้ถึงมือผู้เดือดร้อนตามเจตนารมณ์ผู้บริจาค คนพรรคเพื่อไทยจะเอาของบริจาคไปปะชื่อตัวเองแจกหาเสียง ผมก็ไม่ว่า ถ้านำของบริจาคที่ ศปภ.รับไว้เป็นภูเขากระจายแจกได้หมดและทั่วถึง

แต่ที่เป็นจริงก็คือ รับของบริจาคเอาหน้ากันเท่านั้น แต่ ศปภ.ไม่สนใจที่จะหาวิธีกระจายของที่เก็บไว้ให้ถึงมือ-ถึงท้องชาวบ้านเลย

วิธีกระจายจริงๆ ไม่ยาก รัฐมนตรีมหาดไทยไปนั่งสอยชายกระโปรงใครอยู่ที่ไหน การจะให้ ศปภ.ไปแจกเองมันทำไม่ทั่วถึงทันการณ์ แต่ถ้าใช้สติปัญญา และไม่งกกักเอาของไว้

รัฐมนตรีมหาดไทยนั่นแหละ สั่งให้ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด เรียกนายอำเภอ เรียก อบต. เรียกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทำบัญชีลูกบ้านของแต่ละคนมา แล้วมาเบิกของบริจาคไปจาก ศปภ. หรือจะให้ ศปภ.จัดส่งไป ณ จุดไหน ก็นัดแนะประสานกัน เพราะแต่ละผู้นำในพื้นที่เขาจะรู้จำนวน รู้ที่ตั้งบ้านเรือนของลูกบ้านทะลุปรุโปร่ง

เมื่อได้ของ เขาก็จะแยกย้ายกระจายกันนำของไปแจกจ่ายลูกบ้านเขาเอง อมมั่ง ไม่อมมั่ง ใครได้มาก-ได้น้อย จะเป็นไรไป เราก็ต้องการให้เอาไปกิน-เอาไปใช้อยู่แล้ว ข้อสำคัญ ขอให้นำไปแจกจ่ายแบบกระจายให้ทั่วถึงเท่านั้น

เพราะถึงอย่างไร ก็ดีกว่าเก็บกองทิ้งไว้เป็นภูเขาจนถูกน้ำท่วมเสียหาย หรือไม่ก็เลือกกันแต่ของดีๆ ไป ส่วนที่ไม่ดี ไม่ชอบ ก็ทิ้งเกลื่อนกลาด อย่างที่ปรากฏเป็นภาพเป็นเรื่องประจานอยู่ตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่คนต้องการเสียดาย ส่วนคนที่บริจาคก็เสียใจ

ส่วนเรื่อง "ที่พักพิงผู้อพยพ" งานที่ทำมันฟ้องชัดเจนว่า ที่ ศปภ.คิดได้-ทำได้ อย่างที่ทำไปนั้น อย่าต้องให้ไปคิด-ไปบริหารอะไร ให้มันวิบัติฉิบหายมากไปกว่านี้อีกเลย!

น้ำท่วมครั้งนี้ ไม่ใช่น้ำหลากมาโครมเดียวแล้วหายไป น้ำค่อยๆ เดินทางเป็นเดือน ด้วยความรัฐบาล คุณไม่รู้ ไม่คิดคำนวณกันเลยหรือ คือสติ-ปัญญากลวงโบ๋ไม่สามารถคิดอ่านรับมือ-รับสถานการณ์ทั้งทางป้องกันและทางแก้ไขใดๆ ได้เลย นอกจาก "ตามเฮง-ตามซวย"

ถ้ามีวิชั่นระดับผู้บริหารประเทศ ต้องไม่อพยพชาวบ้านหนีน้ำไปอยู่ใน "สมรภูมิน้ำ" อย่างที่เป็นอยู่

เช่น น้ำท่วมอยุธยา กลับให้ตั้งศูนย์อพยพที่ธรรมศาสตร์งี้
น้ำท่วมมาถึงรังสิต ตั้งศูนย์อพยพในสนามบินดอนเมืองงี้
แล้วสุดท้ายก็ต้องมีสภาพเหมือน "หมาคาบลูก" หนีไปทางโน้นที คาบมาทางนี้ที
มันสิ้นเปลืองงบแบบสูญเปล่าขนาดไหน มันซ้ำเติมความลำบากผู้อพยพขนาดไหน

มันเสียกำลังพล-กำลังขนส่งขนาดไหน?

เรียกว่าเสียทุกอย่าง เหตุเพราะวิสั้นของรัฐบาลมันสั้น แทนที่จะวางแผนเลือกหาพื้นที่ "นอกสมรภูมิน้ำ" แล้วอพยพไปทีเดียว...อยู่ จะอพยพจากกี่แห่ง ก็พยายามให้ไปพักในพื้นที่เดียวกัน หรือในละแวกเดียวกัน
ทั้งนี้ เพื่อสะดวกในการดูแล และจัดหาทั้งข้าวปลาอาหาร น้ำท่า ไฟฟืน เรียกว่า "ประหยัดคุ้ม-ประโยชน์สุด" ใครจะไปบริจาคอะไร หรือจะไปจัดกิจกรรมอะไร ก็ไปในพื้นที่เดียว จะให้ข่าวอะไร ก็ได้รับพร้อมกัน เหมือนกัน

ผิดกับที่เป็นอยู่เวลานี้ ใครนึกที่ไหนได้ หรือมีที่ไหนใจดี ก็เฮละโลไปกัน เอ้า...น้ำตามมาอีกแล้ววุ้ย...ก็เฮละโลเขยิบหนีน้ำไปอีก โดยไม่มีแผนบนแนวคิด-แนวบริหารที่เรียกว่ามีวิสัยทัศน์เลย

ไม่ต้องดูว่ารัฐบาลนี้ "คิดได้ไกล" ขนาดไหน ก็ไกลขนาดไปตั้ง ศปภ.ในทางเดินน้ำก้อนใหญ่ที่ดอนเมือง พอน้ำไล่ท่วม ก็เขยิบ ศปภ.ไปตั้งในเส้นทางเดียวกัน คือตามเส้นทางน้ำถนนวิภาวดี ที่กระทรวงพลังงาน
ก็คงต้องย้ายอีก ไม่ย้ายตอนนี้ กลาง "พฤศจิกาคม" รอดยาก!?

ยับเยิน ถอยทัพกลับถึงทำเนียบฯ วันไหน.....
แม่พระคงคาคงตามขึ้นไปท่วมถึงดาดฟ้าที่ "พระพรหมแดง" นั่นเลย!?


--------------------


ปล.ก่อนเกิดเรื่องของบริจาคลอยน้ำ ที่แท้นายการุณ โหสกุลเป็นผู้ดูแลเบิกและอนุมัติการเบิกจ่ายสิ่งของถุงยังชีพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก