วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ก่อนจะแก้มาตรา112 แก้สันดานตัวเองก่อน!!
ผมใหม่เมืองเอก วันนี้ขอเอาข่าวมาลงให้อ่านกัน เพราะข่าววันนี้ตรงกับเจตนารมณ์ของผม
นั่นคือ คนไทยชอบโทษรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
คิดแต่จะแก้แต่รัฐธรรมนูญ แต่ไม่เคยคิดแก้ไขตัวเอง
v
v
ประธานศาล รธน.แนะแก้นิสัยคนก่อนแก้ รธน. ค้านแก้ ม.112
“วสันต์” ค้านแก้ ม.112 ชี้คนคิดเลิก หวังหมิ่นสถาบันโดยไม่ผิดกฏหมาย เหน็บได้ลงกินเนสส์บุ๊กแน่ มี กม.คุ้มครองประมุขรัฐต่างประเทศ แต่ไม่คุ้มครองประมุขรัฐตัวเอง แนะแก้ รธน.แก้นิสัยคนก่อนดีกว่า
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ ซึ่งอาจจะมีการแก้ไขมาตรา 309 ที่ส่งผลกระทบถึงองค์กรอิสระว่า ให้เขาแก้กันก่อน เพราะตอนนี้เท่าที่รับฟังยังไม่รู้ว่าจะแก้กันอย่างไร บางฝ่ายก็บอกว่ามี 6-7 ประเด็นที่ต้องแก้ ขณะที่อีกฝ่ายก็บอกว่าให้ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ จึงยังอยู่ในช่วงสับสนอยู่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับมีทั้งข้อดี ข้อเสีย แก้อย่างไรก็ยังมีช่องน้อยๆ ให้หลีกเลี่ยง หลุดรอดไปได้
เพราะบ้านเราถือว่า คนที่เลี่ยงกฎหมายเก่ง ถือว่าเป็นนักกฎหมายที่เก่ง อย่าง ภาษีอากรใครที่หลีกเลี่ยงกฎหมายจนทำให้จ่ายภาษีน้อยได้ ก็จะถือว่านักกฎหมายคนนั้นเป็นคนที่เก่ง ดังนั้นกฎหมายเขียนอย่างไรก็ได้ ถ้าคนมีคุณธรรมปัญหาก็ไม่เกิด แก้นิสัยของคนจึงดีกว่าแก้กฎหมาย
“กฎหมายเขียนว่า ผู้ใดฆ่าคนอื่นจะถูกประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต แต่ก็ยังมีการฆ่ากันทั้งๆ ที่ในหลักพุทธศาสนาก็ถือว่าเป็นบาปหนัก ดังนั้น ถ้าทุกคนมีธรรมในใจ ไม่ต้องมีกฎหมายก็ได้ ก็เหมือนการแก้รัฐธรรมนูญ แก้ให้ดีอย่างไรก็ยังจะมีคนหลีกเลี่ยงและเอาไปเป็นเครื่องมือตนเอง อย่างนักวิชาการบางกลุ่มเคยพูดเลยว่า ถ้าศาลตัดสินมาอย่างไร เขาไม่เห็นด้วยทั้งนั้น ซึ่งอันนี้มันก็อยู่ที่ใครมีหน้าที่อะไร” ประธานศาลรัฐธรรมนูญระบุ
นายวสันต์ยังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่จะยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่บัญญัติความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยระบุว่า ในประมวลกฎหมายอาญา มีหมวดความผิดต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ อยู่ในมาตรา 130-135 ที่บัญญัติในลักษณะเป็นการคุ้มครองประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐต่างประเทศ ว่าใครจะดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายมิได้ มีทั้งโทษจำคุกและปรับ
ดังนั้น ถ้ายกเลิกวิ.อาญามาตรา 112 ถามว่าเราจะคุ้มครองแต่ประมุขรัฐต่างประเทศเท่านั้นใช่หรือไม่?
จะไม่คุ้มครองประมุขรัฐไทยใช่หรือไม่? ซึ่งตนเห็นเหมือนกับนักกฎหมายหลายคนที่แสดงความเห็นก่อนหน้านี้ว่า คนที่คิดจะเลิกมาตรา 112 เขาต้องการที่จะหมิ่นสถาบันฯโดยไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ ซึ่งกฎหมายอยู่ดีๆ ถ้าเขาไม่ไปหมิ่นก็ไม่มีใครเดือดร้อน
“ถ้าจะยกเลิกมาตรา 112 มันก็ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 8 ที่บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ด้วย และถ้าเราทำจริง ประเทศไทยก็จะเป็นประเทศแรกที่ยกย่องประมุขต่างประเทศยิ่งกว่าประมุขของเราเอง แล้วก็จะได้ลงบันทึกกินเนสส์บุ๊กเลย” นายวสันต์กล่าว
http://astv.mobi/AOAWRzK
คลิกอ่าน จะปกป้องสถาบันกษัตริย์ ต้องรู้ทันพวกล้มเจ้า!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงเฉพาะเมืองไทยเท่านั้นที่นักวิชุาการบางส่วน ออกมาชูมือเห้นด้วยในเรืองนี้แบบเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่สถาบันกษัตริย์มีประวัติศาสตร์มาคู่บ้านคู่เมื่องไทยมานับเป็นร้อยเป็นพันปีบรรพบุรุษท่านเสียสละพระชนม์ชีพปกป้องกอบกู้บ้านเมืองฝ่าฟันวิกฤตต่างๆมาอย่างยากลำบากจนมาเป็นเมืองสยามและประเทศไทยในปัจจุบันในหลวงท่านก็ยังเหนื่อยยากเพื่อพวกเราอยู่ แ่ต่กลับมีไพร่สามัญชนคนธรรมดาที่อวดอ้างเป็นนักต่อสู้บ้างนักสิทธิมนุษยชนบ้าง โดยอ้างคำหรูๆเสรีภาพไม่ก็อ้่างฝรั่งชาติที่ชอบจัดระเบียบโลกชาติที่สร้างประเทศด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชนท้องถิ่นอย่างเหี้ยมโหดแต่ชอบชี้คนนั้นคนนี้เป็นผู้ร้ายใครไม่เห้นด้วยก้พร้อมจะชี้เป็นศัตรู ในเรื่องนี้มันเป็นวัฒนธรรมในสายเลือดของคนไทยเป็นส่วนใหญ่แต่ก็มีส่วนน้อยส่วนนึงน่าจะเป็นเลือดชั่วลืมสัณชาติไทยแต่เป็นสัณชาติวัววัดรอย...บวกทรพีที่ชอบวัดรอยเท้ามีแต่พวกนี้เท่านั้นที่มีความรู้สึกเหมือนหนอนเหมือนไส้เดือนที่กลัวขี้เถ้าในเรื่องนี้คนธรรมดาที่ยึดมั่นแลจงรักภักดีย่อมไม่อนาทรและพร้อมจะปกป้องด้วยชีวิตดุจเดียวกับบรรพบุรุษไทยที่กล้าหาญทั้งหลาย หาใช่พวกขายชาติรับจ้างพูดแจ๋วๆออกจอได้ด้วย ขอประกาศเลยอยากแก้ไขยกเลิกละก็ข้ามศพกระผมไปก่อนเถอะ
ตอบลบ