วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ป๋าเปลว สีเงินเปิดกะโหลกประชา พรหมนอก






เมื่อพูดถึงกรณี ถุงยังชีพกระทรวงพลังงาน ที่นายอภิสิทธิ์นำไปแจกที่พิษณุโลกนั้น แล้วผู้ว่าฯที่ท่าดีทีเหลวอย่าง ผู้ว่าปรีชา เรืองจันทร์ ที่กลัวลนลานกลัวจะโดนรัฐบาลเพื่อแม้วเอาเรื่อง ที่ดันไปมอบถุงยังชีพให้นายอภิสิทธิ์ไปแจกนั้น

ผมเคยตั้งกระทู้ที่สนุก กระทู้ ท่านปรีชา ผู้ว่าพิษณุโลกบกพร่องในหน้าที่!!

ผมก็ได้ถกเถียงกับอีกท่านนึง ที่เข้าข้างฝ่ายรัฐบาลเพื่อแม้ว พอประมาณ

ซึ่งจากกระทู้นั้นผมก็เอามาลงในบทความด้วย ในบทความ ผู้ว่าปรีชา หงอต่ออำนาจรัฐ

มาวันนี้ เปลว สีเงิน ได้หยิบปยกประเด็นนี้ขึ้นมาวิจารณ์ อันเนื่องจากตาประชา พรหมนอก ไปยื่นหนังสื่อถอดถอนนายอภิสิทธิ์จากกรณีนี้ ถ้าใครได้อ่านป๋าเปลวเขียน ก็คงเข้าใจว่า คดีนี้อภิสิทธิ์ไม่ผิดแน่นอน เว้นแต่พวกตะแบงเท่านั้นที่จะไม่เข้าใจ

v

v

เนื้อหาเปลว สีเงิน ภาวะหน้ามืดของ "พล.ต.อ.ประชา"

เย็นวาน (๘ ธ.ค.๕๔) ดูข่าวแปลก ก็เลยอยากนำมาคุยกัน นั่นคือข่าวที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นำรายชื่อ ๘๔ ส.ส.เพื่อไทยยื่นคำร้องถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ให้พ้นจากความเป็น ส.ส.ด้วยข้อหา ใช้ความเป็น ส.ส.ไปบีบผู้ว่าฯ พิษณุโลก ให้เอาถุงยังชีพไปแจกชาวบ้านน้ำท่วม
พล.ต.อ.ประชากับคณะพรรค ส.ส.ส่วนหนึ่ง ทำคำร้องไปยื่นต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อให้ส่งต่อ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ตีความสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์และ นพ.วรงค์สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๖ (๖)
ก็หารัฐธรรมนูญมาเปิดดูเอา มาตรา ๑๐๖ (๖) จะโยงไปมาตรา ๒๖๕ และ ๒๖๖ สรุปๆ ก็ตามคำร้องกล่าวหานั่นแหละว่า ก้าวก่าย แทรกแซงการทำหน้าที่ประจำของผู้ว่าฯ พิษณุโลก อันเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ

ก้าวก่ายแบบไหน...พล.ต.อ.ประชาระบุในคำร้องว่า........

"โดย นพ.วรงค์ได้ใช้สถานภาพความเป็น ส.ส.โทรศัพท์ไปบีบบังคับเอาถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน จำนวน ๕๐๐ ถุง จากผู้ว่าฯ พิษณุโลก และนำถุงยังชีพดังกล่าวไปให้นายอภิสิทธิ์ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแจกจ่ายตามวัตถุประสงค์ของตนเองและพรรคประชาธิปัตย์ มิใช่การช่วยเหลือตามแผนงานของราชการ"

ครับ...เห็นแล้ว พูดได้คำเดียวว่า "อายแทน"!

เคยเป็นถึง ผบ.ตร. และตอนนี้เป็นถึง รมว.ยุติธรรม หมายถึงว่ามีตำแหน่งฐานะเป็นผู้นำองค์กรกฎหมาย เป็นหัวหน้าเจ้าพนักงานผู้ใช้กฎหมายกับประชาชนโดยตรง แต่กับการยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์กับ นพ.วรงค์นี้ ใช้กฎหมายแบบ

"ตะแบง...ด้วยตัณหาหน้ามืด" จริงๆ!

ทำไมจึงต้องไปหงอ และเป็นเครื่องมือให้พวกสมุนแม้วหลอกใช้ถึงขนาดนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวท่าน ในความเป็นอินทรีอีสาน ขณะนี้แทบไม่เหลือขน-เหลือหนัง สภาพไม่ต่างจากอีแร้งแล้ว ในฐานะคนเคยรัก-เคยชอบกัน ก็ช่วยได้แค่เตือนสติเท่านี้แหละ
ด้วยฐานความผิดตามที่อ้าง ใครเขาก็รู้ทั้งเมืองว่า อ้างรัฐธรรมนูญแบบบ้องตื้น จะแก้เกี้ยว-แก้แค้นประชาธิปัตย์ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจและยื่นถอดถอนท่านเท่านั้น พวกทะแนะตะแบงรัฐธรรมนูญพอให้เป็นข่าว ก็เชื่อตามเขาไปหมด
เรื่องถุงยังชีพพิษณุโลก ดูเหมือนเพื่อไทยกระหยิ่มยิ้มย่องมากว่าเป็น "หมัดโต้" จับเปาะเข้าปลายคางประชาธิปัตย์จนลงไปนอนดิ้นปั๊ดๆ กับพื้น

คือฝ่ายค้านแฉในสภาว่า ศปภ.ส่อไม่สุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพ แล้วยังปล่อยปละให้ ส.ส.และคนรัฐบาลเอาของที่ชาวบ้านบริจาคไปติดชื่อตัวเอง แล้วนำไปแจกในนามตัวเองบ้าง ในนามทักษิณบ้าง
คืนนั้น ผมก็ดูที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ลุกขึ้นมาแก้ลำว่า ฝ่ายค้าน-ประชาธิปัตย์ก็ทำอย่างนั้น โดย นพ.วรงค์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ไปบีบบังคับเอาถุงยังชีพ ๕๐๐ ถุง ที่กระทรวงพลังงานส่งไปให้ผู้ว่าฯ พิษณุโลกแจกชาวบ้าน นำไปให้นายอภิสิทธิ์ที่เดินทางไปเยี่ยมคนถูกน้ำท่วมแจก

นายพิชัยพูดทำนอง ถุงยังชีพที่นายอภิสิทธิ์แจกนั้น เหมือนขู่กรรโชกเอาไปจากผู้ว่าฯ พิษณุโลก เพื่อนำไปแจกแลกผลประโยชน์ทางชื่อเสียงตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างกับที่กำลังสาวไส้พวกเขาอยู่หรอก
สภาถ่ายทอดโทรทัศน์ที่นายพิชัยพูดไปทั่วประเทศว่า...ผู้ว่าฯ พิษณุโลกอึดอัดลำบากใจต่อการข่มขู่ บีบบังคับของ นพ.วรงค์มาก จะไม่ให้ก็ไม่ได้ เพราะ นพ.วรงค์เป็น ส.ส. จำเป็นต้องให้ไป ๕๐๐ ถุง นี่...ผู้ว่าฯ ทำจดหมายมาฟ้อง มาบอกให้ทราบ...นายพิชัยขยับทำนองว่าจดหมายผู้ว่าฯ พิษณุโลกอยู่ในมือ

เอาละ...พล.ต.อ.ประชาไปยื่นคำร้องถอดถอนนายอภิสิทธิ์และ นพ.วรงค์ก็ดีแล้ว ผมก็จะได้ฟังแจ้งๆ จะจะจากปากผู้ว่าฯ พิษณุโลกตัวเป็นๆ ต่อหน้าศาลในฐานะพยานปากเอกซะทีว่า
จริงหรือ...ที่ทำหนังสือแจ้งไปยังนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ว่าถูก นพ.วรงค์ใช้ฐานะ ส.ส.ขมขู่ บีบบังคับเอาถุงยังชีพไปแจกชาวบ้าน และจำต้องให้ไปด้วยความจำใจที่ไม่สามารถขัดได้?

ไม่ใช่...มีใครในรัฐบาล ในมหาดไทย ไปขมขู่-บีบบังคับผู้ว่าฯ เสียเอง โดยให้ทำหนังสือว่า ถูก นพ.วรงค์บีบบังคับเอาถุงยังชีพ จำต้องให้ไปเพราะเกรงในอำนาจ ส.ส. ด้วยหวังใช้หนังสือผู้ว่าฯ นั้น แก้เผ็ด-แก้ลำ ประชาธิปัตย์ที่กำลังถลกหนังรัฐบาลอยู่ในสภาคืนวันอภิปรายนั้น?

และอีกอย่าง ก็อยากจะฟังปากคำ พล.ต.อ.ประชาด้วยว่า "การช่วยเหลือตามแผนงานของราชการ" มันคืออะไร การที่อดีตนายกฯ และผู้นำฝ่ายค้านช่วยนำถุงยังชีพชนิด "ไม่ปรุงแต่ง" ให้ผิดจากเดิมไปแจกชาวบ้าน มันขัดกับแผนงานของราชการแบบไหน อย่างไร?

ก็เอาละ ผมจะแยกข้อกล่าวหาของ พล.ต.อ.ประชา "ถามกลับ" ทีละประเด็นก่อน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจที่ตรงกัน โดยจะแยกเป็นประเด็นๆ ไป ดังนี้

๑.ถุงยังชีพตีตรา "กระทรวงพลังงาน" แสดงว่า จัดทำด้วยเงินหลวงเพื่อชาวบ้านใช่ไหม?
๒.เป้าหมาย ส่งไปให้จังหวัดเพื่อกระจายแจกชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมใช่ไหม?
๓.การไปแจก คนอื่นๆ แจกไม่ได้ ต้องให้ผู้ว่าฯ แจกด้วยมือตัวเองทุกครั้งอย่างนั้นใช่ไหม?
๔.วัตถุประสงค์ให้แจกถึงมือชาวบ้านทั่วถึง-รวดเร็ว ไม่ต้องการซุกเก็บคาโกดังใช่ไหม?
๕.มีการเบิกจ่ายมอบให้องค์กร คณะบุคคล หน่วยงาน ช่วยกันนำออกแจกประจำใช่ไหม?

๖.นอกจาก นพ.วรงค์แล้ว ส.ส.อื่นขอนำไปแจกบ้างก็ได้ แต่ไม่มีใครมาขอนำไปแจกใช่ไหม?
๗.นายอภิสิทธิ์กับคณะ นำไปแจกโดยประกาศว่า "เป็นของกระทรวงพลังงาน" ใช่ไหม?
๘.ไม่มีการนำชื่อนายอภิสิทธิ์ หรือ นพ.วรงค์ หรือประชาธิปัตย์ ไปฉีดพ่นทับชื่อ "กระทรวงพลังงาน" ใช่ไหม?
๙.ชาวบ้านรับไป สิ่งปรากฏชัดคือชื่อ "กระทรวงพลังงาน" ไม่มีรูปรอยใดๆ เป็นของนายอภิสิทธิ์ใช่ไหม?


ตามข้อ ๗, ๘, ๙ ผมเห็นในรูปที่นายพิชัยนำมาแฉ ถุงที่ชาวบ้านกำลังรับจากนายอภิสิทธิ์ ชื่อ "กระทรวงพลังงาน" เห็นชัด และนายอภิสิทธิ์ก็อธิบายในสภาว่า ก่อนแจกได้ประกาศให้ชาวบ้านทราบ "เป็นถุงยังชีพกระทรวงพลังงาน" ซึ่งนายพิชัยก็ยอมรับตรงนี้
เอาละ เอาคำถามชุดเดียวกันนี้ ย้อนกลับไปถามรัฐบาล ผ่านทาง พล.ต.อ.ประชา ในฐานะ ผอ.ศปภ.บ้าง ก็จะได้ผลออกมาตรงกันข้าม

ถุงยังชีพและสิ่งของที่จัดซื้อก็เงินหลวงบ้าง เงินบริจาคชาวบ้านบ้าง แต่ออกมาเป็นสิ่งของ-เป็นถุงยังชีพชื่อรัฐมนตรี ชื่อ ส.ส. ชื่อนายกฯ ชื่อคนแดนไกล คละกันไป
ข้าวของกองพะเนินใน ศปภ.ก็ล้วนชาวบ้านบริจาค แล้วสิ่งที่ปรากฏเป็นไง ทิ้งไว้กองพะเนินเทินทึก ไม่อินังขังขอบที่จะรีบนำออกกระจายจ่ายแจกให้ถึงมือชาวบ้านที่กำลังต้องการ จนกระทั่งถูกวิจารณ์ และประจาน เป็นผลให้คนเสื่อมศรัทธา ไม่นำของมาบริจาคผ่าน ศปภ.อีกมากนัก

ส่วนที่นำแจก ก็แจกแบบมีการพ่นสีทับชื่อเจ้าของผู้บริจาคแล้วเอาชื่อตัวเองใส่แทนบ้าง ข้าวของก็เอาไปบรรจุถุงแล้วพิมพ์ชื่อตัวเองใส่บ้าง เอารถบรรทุกมาขนไปแจก โดยเขียนป้ายชื่อตัวเองติดข้างรถบ้าง ใครที่ไม่ใช่พวกรัฐบาล อาสานำไปช่วยกระจายแจกบ้างก็ไม่ได้ จนมีเสียงผู้เดือดร้อนตะโกนก้อง
"ไม่เคยได้รับถุงยังชีพจากรัฐบาลเลย" ทั้งที่ของบริจาคมีมากมายเป็นภูเขา!

นั่นก็คือ ประเด็นเรื่องแจก "ถุงยังชีพ" ไม่ได้อยู่ที่ใครเอาไปแจก แต่อยู่ที่...ทำไมไม่รีบนำออกแจก, เอาไปแจกถึงมือชาวบ้านจริงไหม, แจกด้วยบริสุทธ์-โปร่งใสจริงไหม?
ส.ส.รัฐบาล คนรัฐบาล ศัตรูรัฐบาล ฝ่ายค้าน เสื้อแดง เสื้อเขียว เหลือง ใครก็ได้ ถ้ามีความบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ไปช่วยกันนำของที่กองพะเนินแจกให้ถึงมือคนไม่มีข้าวกิน ไม่มีของใช้ยามน้ำท่วม ถือเป็นเรื่องดี เรื่องถูก เรื่องควร เป็นบุคคลควรได้รับการขอบคุณและสรรเสริญทั้งสิ้น

แต่ที่เป็นข้อครหา และนำไปพูดกันในสภา ก็เพราะ "แจกไม่บริสุทธิ์" นั่นต่างหาก ของชาวบ้านบริจาคกลับเอาไปติดชื่อตัวเองแจก เงินหลวง-เงินชาวบ้าน ก็ไปจ้างทำถุงยังชีพ "แพงเกินราคาของ" แล้วยังแถมพะชื่อกันเอง
ที่นายอภิสิทธิ์ไปแจกถุงยังชีพกระทรวงพลังงาน ไม่ได้อ้างเป็นของตัวเอง ไม่ได้ใส่รถบรรทุกติดตราประชาธิปัตย์ แล้วตะโกนปาวๆ ประชาธิปัตย์แจก ชาวบ้านก็ได้ยินและรู้ชัดว่า ที่นายอภิสิทธิ์แจกนั้น ถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ที่นายพิชัยเพิ่งเข้ามาเป็นเจ้ากระทรวงวานซืนนี้เอง

ผู้ว่าฯ ควรขอบใจด้วยซ้ำที่ "ใครก็ได้" ช่วยกันคนละไม้ละมือ ลุยน้ำนำไปกระจายแจกให้ถึงปาก-ถึงท้องชาวบ้านไวๆ และผมไม่เชื่อว่า จะมีผู้ว่าฯ คนไหนเกิดทัศนคติทำนอง นักการเมืองที่ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล คือศัตรูรัฐบาลและประชาชน ที่จะให้เข้ามาแตะต้องข้องแวะกับระบบราชการใดๆ ไม่ได้!?
ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้ว่าฯ กักตุนถุงยังชีพไว้ในโกดังเฉยๆ นี่แหละ...ควรถอดถอนผู้ว่าฯ มากกว่าไปถอดถอนอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ และ ส.ส.วรงค์!

ท่าน พล.ต.อ.ประชาครับ ถ้าจะถอดถอนความเป็น ส.ส.จากนายอภิสิทธิ์-นพ.วรงค์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๖ (๖) ด้วยฐานความผิด ก้าวก่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ประจำของผู้ว่าราชการจังหวัดในภาวะน้ำท่วมนี้ คงจะต้องถูกถอดถอนเกือบหมดทั้งสภาแหละครับ
โดยเฉพาะ ส.ส.เพื่อไทยที่กระวีกระวาดช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เพราะเห็นกันทนโท่ และทั้งพูดเองปาวๆ ในสภา ฮีโร่ของตัวเองนั้น ก็ล้วนต้องเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ประจำของผู้ว่าฯ เขาแทบทั้งนั้น ทั้งที่นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี สมุทรสาคร นครปฐม อุทัยธานี จนถึงนครสวรรค์

เคราะห์ดีนะ ผู้ว่าฯ กทม.เป็นข้าราชการการเมือง ไม่งั้น...ทั้งนายกฯ ทั้ง พล.ต.อ.ประชา เรียกว่าทั้ง ศปภ.ถูกถอดถอนเกลี้ยง
โทษฐาน แทรกแซงการทำหน้าที่ประจำของ "สุขุมพันธุ์" จนหน้าเขียว!

http://www.thaipost.net/news/091211/49371





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก