วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เมื่อ กฟผ. พา ดร.สมเกียรติไปดูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และถ่านหิน






รายการคิดยกกำลังสอง ไทยพีบีเอส ได้เชิญ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล มาเล่าถึงการไปดูโรงไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่เยอรมันและฝรั่งเศส

โดยที่ ดร.สมเกียรตื รีบออกตัวไว้ก่อนตั้งแต่เริ่มรายการว่า "ผมไม่ใช่สื่อมวลชนในกระแส  คือไม่ได้ประกอบในอาชีพนี้อยู่แล้ว..." 

ดร.สมเกียรติ คงหมายถึง ตนเองไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพลังงานโดยเฉพาะ

ก่อนอื่นผมอยากให้คุณผู้อ่านดูคลิปความยาว 7 นาทีกว่า ๆ เท่านั้นก่อน ก่อนที่ผมจะขอวิจารณ์เรื่องนี้ในสิ่งที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย



ผมว่า การที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้พาผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อไปดูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไปดูโรงไฟฟ้าถ่านหิน เจตนาหลักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็คือต้องการให้คนที่มีศักยภาพด้านสื่ออย่าง ดร.สมเกียรติ มาพูดในสิ่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องการนำเสนอให้คนไทยรู้

มีคำพูดหลายประโยคที่สะกิดใจผมของ ดร.สมเกียรติ

เช่น นาทีที่ 1.10 "เราทุกคนรู้ว่าประเทศไทยเนี่ย ไม่มีแหล่งพลังงานของตัวเองพอที่จะผลิตกระแสไฟฟ้า เลี้ยงคน อุตสาหกรรม ธุรกิจกับบริการทุกอย่างให้แสงสว่างและพลังงานกับประเทศได้ต่อไปในอนาคต ในระยะไม่ได้ยาวนะ"

ที่ ดร.สมเกียรติพูด ท่านหมายถึงพลังงานหลัก ไม่ใช่พลังงานทางเลือก เช่น แก๊ส ถ่านหิน ซึ่งเรากำลังจะมีไม่พอในการผลิตไฟฟ้าในอนาคต อาจารย์สมเกียรติจึงพูดถึงว่า ต่อไปเราต้องเลือกว่าจะใช้อะไรมาทดแทนสิ่งพวกนี้ในอนาคต

โดยที่ท่านยกตัวอย่างเรื่อง พลังงานนิวเคลียร์ และปัญหาที่คนไทยต่อต้าน รวมถึงปัญหาที่ไทยเรายังขาดบุคลากรวิศวกรในเรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งแม้ไทยอยากจะทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตอนนี้ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขาดบุคลากรในด้านนี้

และประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ คนไทยไม่ไว้ใจหน่วยงานที่จะเข้ามารับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยในเรื่องนิวเคลียร์ หรือแปลง่าย ๆ ว่า ไม่ไว้ใจความเป็นไทย ไม่ไว้ใจการบริหารจัดการแบบไทย ๆ

ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่สุด คนไทยไม่ไว้ใจมาตรฐานความปลอดภัยแบบไทย ๆ 


โดยเฉพาะในช่วงท้ายรายการที่ดร.สมเกียรติ สรุป ท่านได้สรุปไว้ว่า

"ไม่มีทางเลือกนะสำหรับประเทศไทย ต้องหาพลังงานมาเพิ่ม ถ้าไม่นิวเคลียร์ ก็ถ่านหิน แก๊สไม่พอ เพราะฉะนั้นต้องนำเข้า แต่ก็สร้างคนให้มั่นใจ คือคนที่จะเข้าไปทำงาน เทคโนโลยีมันมีอยู่แล้วไม่ว่าจะถ่านหิน หรือนิวเคลียร์ แล้วก็สร้างองค์ความรู้ให้กับชุมชน หรือองค์กรภาคประชาชนและประชาสังคม ที่ตั้งใจว่าจะค้าน หรือตั้งใจว่าจะสนับสนุน จะได้รบด้วยภูมิปัญญาให้รู้แพ้รู้ชนะ เพื่อให้ทุกคนมีไฟฟ้าใช้"


คือถ้าใครได้ดูที่ ดร.สมเกียรตืพูดทั้งหมด ตลอดจนที่การสรุปในช่วงท้ายรายการแล้ว

สำหรับผม ผมคงต้องมองและนึกเผื่อไปถึงคนดูอีกจำนวนมากในประเทศนี้ ที่พวกเขาอาจไม่ได้มีองค์ความรู้เรื่องพลังงานไฟฟ้ามากนัก แล้วพอพวกเขาได้ฟังดร.สมเกียรติ ผู้มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก

พวกเขาก็อาจจะต้องคิดไปตามที่ ดร.สมเกียรติอธิบายว่า คงเหลือแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น ที่คนไทยจะต้องตัดสินใจเลือก นั่นคือ ถ้าไม่เลือกถ่านหินก็ต้องนิวเคลียร์ เพราะในอนาคตแก๊สจะหมด

ดังนั้นผมจึงรีบไปแสดงความเห็นท้วงติง ดร.สมเกียรติ ที่เพจของดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ตามนี้



ขอบอกไว้ก่อนว่า เพราะผมให้เกียรติและเคารพ ดร.สมเกียรติ ผมจึงตอบท่านแบบที่เห็น

แม้ ดร.สมเกียรติ จะออกตัวว่า จะพูดเฉพาะที่ไปดูมาเท่านั้นก็ตาม (ซึ่งนั่นคือเจตนาที่ กฟผ. ต้องการ)

แต่ผมคิดว่า ถ้า ดร.สมเกียรติ จะสรุปหรือเอ่ยถึงโรงไฟฟ้าชนิดอื่นได้บ้างก็ไม่น่าจะเป็นไร ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าอาจารย์จะเสริมไปสักนิดก็น่าจะเสริมได้โดยไม่ต้องลงรายละเอียด เพื่อให้คนดูทั่วประเทศจะได้ไม่เกิดความคิดที่ว่า เหลือทางเลือกอยู่แค่ 2 ทางเท่านั้น คือ ไม่นิวเคลียร์ ก็ถ่านหิน  ซึ่งจะตรงกับเจตนาที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหวังผลไว้

จากที่ฟัง ดร.สมเกียรติพูด จะเห็นว่า แนวโน้มน่าจะไปทางให้เลือกโรงไฟฟ้าถ่านหินมากกว่า เพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังมีปัญหาหลายด้านที่คนไทยเรายังไม่พร้อม

ยิ่งเมื่อผมไปดูเฟสบุ๊คของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็ยิ่งพบว่า เพจของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตพยายามนำเสนอข้อดีของการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างมากมาย 

ซึ่งผมขอบอกว่า ไม่เห็นด้วยเลยที่ไทยเราจะเลือกเส้นทางโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะไทยเรามีทางเลือกที่ดีกว่านั้นคือ โรงไฟฟ้าจากขยะ และโรงไฟฟ้าจากชีวมวล ตามที่ผมได้แสดงความเห็นให้อาจารย์สมเกียรติได้อ่านตามรูปด้านบน

ดังนั้นที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตพาคนไปดูงานโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็เพื่อต้องการเชียร์โรงไฟฟ้าถ่านหินนั่นแหละครับ

---------------

ความสำเร็จโรงไฟฟ้าจากขยะ ในประเทศสวีเดน

ทีนี้เรามาดูความสำเร็จของประเทศสวีเดน ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากขยะได้ดีมากจน กำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนมีขยะไม่พอจะผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยซ้ำ
ถึงขนาดประเทศสวีเดนต้องนำเข้าขยะจากหลายประเทศในยุโรปเพื่อเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้าให้พอเพียงในประเทศ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานนำเข้าอย่างอื่นเลย

แถมสามารถแก้ปัญหาขยะล้นเมืองได้อย่างดีที่สุด

คลิปสวีเดนนำเข้าขยะมาผลิตไฟฟ้า ความยาวแค่ 1.56 นาที



จากกรณีศึกษาของประเทศสวีเดน ได้บอกให้เรารู้ว่า ไทยเราควรเลียนแบบสวีเดนมากที่สุดในการใช้ขยะมาผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะประเทศไทยเรามีปัญหาขยะมากจนล้นเมือง จนกำจัดไม่หมด รวมทั้งมีขยะจากการเกษตรมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงงานไฟฟ้าชีวมวล

และไม่เพียงแต่ที่สวีเดนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จเรื่องโรงไฟฟ้าจากขยะ แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเองก็ประสบความสำเร็จจากโรงไฟฟ้าจากขยะเช่นเดียวกัน

รายการดูให้รู้ ประโยชน์จากขยะในญี่ปุ่นมีมากมายจริง ๆ


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไม่คิดจะพาคนไปดูงานที่สวีเดน และญี่ปุ่นบ้างเหรอ?

ที่นักการเมือง หรือคนในรัฐบาลทุกยุคคิดแต่เรื่องถ่านหิน นั่นเพราะมันมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงมากมาย เลยไม่ค่อยส่งเสริมโรงไฟฟ้าจากขยะและชีวมวลให้มากเท่าที่ควร

แต่ประเทศไทยเราก็เริ่มโรงไฟฟ้าประเภทนี้หลายแห่งแล้วนะครับ เพียงแต่ว่ายังมีน้อยไป นั่นเพราะรัฐบาลทุกรัฐบาลยังไม่สนใจสนับสนุนให้ทำแบบจริงจัง เอาจริง !!อาจเพราะผลประโยชน์ใน ปตท. และในการไฟฟ้าฝ่ายผลิต มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่เยอะแน่ๆ

ผมว่า ถ้าเรามีโรงไฟฟ้าจากขยะ โรงไฟฟ้าชีวมวลในทุกชุมนุน เช่น ทุก อบต. จนทั่วประเทศ แล้วถ้าไฟฟ้าไม่พอใช้ ค่อยมองเรื่องไฟฟ้าจากนิวเคลียร์และจากถ่านหินอีกที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก