วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ถึงเวลาทักษิณถีบหัวส่งพวกแดงล้มเจ้า !!
ที่ผ่านมา ทักษิณหลอกใช้แดงล้มเจ้าในการปลุกระดมทางความคิด ความไม่เท่าเทียมกัน วาทะกรรมอำมาตย์ไพร่ จนรากหญ้าโง่ๆ บางจำพวกหลงเชื่อ เกลียดเจ้าไปด้วย
อาจเพราะวันนี้ทักษิณ รู้ตัวว่า ที่ผ่านมา ตัวเองใส่ร้ายสถาบันฯ มาเยอะ อีกทั้งพวกล้มเจ้าจะเป็นปัญหาต่อการปกครองของทักษิณในภายหลัง เป็นปัญหาต่อธุรกิจนายทุนขูดรีดของตระกูลชินวัตรได้ วันนี้ทักษิณ จึงขอใช้โอกาสปรองดองนี้ ตัดหางแดงชั่วออกไปซะเลย
บทความต่อไปนี้ เขาเขียนดีมาก เขียนได้ตรงกับใจที่ผมคิดจะเขียนเอง เลยไม่ต้องเขียน ขอนำมาให้อ่านแล้วกันครับ
v
v
“แม้ว” ถีบหัวส่ง TRUTH TODAY ของคนเสื้อแดง
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่า “นช.ทักษิณ ชินวัตร” ประมุขแห่งรัฐไทยใหม่จะจูงจมูกไปทางไหนหรือขอร้องให้เสียสละอย่างใด “คนเสื้อแดง” ที่เปรียบเสมือนไพร่ในสังกัดหรือทาสในเรือนเบี้ยก็ไม่มีสิทธิที่จะไม่พอใจหรือตอบโต้ประการใด
ทั้งนี้ เนื่องเพราะคนที่เป็น “แดงแท้” นั้น มีอุดมการณ์สูงสุดคือ การรับใช้ นช.ทักษิณในทุกรูปแบบ จะสั่งให้ไปตายหรือบุกป่าฝ่าทะเลที่ไหนก็ไม่มีสิทธิบ่น เปรียบเสมือนทาสในเรือนเบี้ยที่ต้องทำคำสั่งผู้เป็นนายอย่างสู้ตายถวายหัว
ส่วนคนที่เปิดปากวิพากษ์วิจารณ์ประมุขแห่งรัฐไทยใหม่นั้นคือ “แดงเทียม” ที่หวังเข้ามาอิงแอบและแสวงหาแนวร่วมเพื่อเป้าหมายสูงสุดของตนเองเท่านั้น
เนื่องจากต้องไม่ลืมว่า การก่อกำเนิดของคนเสื้อแดงในราชอาณาจักรไทยด้วยฝีมือการรังสรรค์ของนายเนวิน ชิดชอบมีเป้าหมายสูงสุดคือ เป็นมวลชนที่มีภารกิจเพียงหนึ่งเดียวคือ ปกป้อง นช.ทักษิณ
ด้วยเหตุดังกล่าว การที่ นช.ทักษิณเรียกร้องครั้งล่าสุดผ่านการวิดีโอลิงก์จากประเทศจีนเข้ามาที่เวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 เพื่อขอให้ญาติคนเสื้อแดงที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บเสียสละด้วยการยอมรับการปรองดอง ด้วยการขอให้ลืมการไล่ล่าตามหาคนสั่งฆ่ามารับโทษนั้น คนเสื้อแดงแท้ๆ จึงสมควรที่จะต้องยอมรับ เพราะนั่นคือคำประกาศิตจากผู้เป็นประมุข
เพราะต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นครั้งที่สองที่นายใหญ่ของคนเสื้อแดงประกาศจุดยืนของตนเองออกมาอย่างชัดเจน
ครั้งแรกที่ นช.ทักษิณเรียกร้องให้คนเสื้อแดงที่ตายไปเสียสละเพื่อให้การปรองดองเดินทางไปได้เกิดขึ้นในระหว่างเดินทางไปสำแดงบารมีด้วยการขี่ม้าเลียบเมืองในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) และราชอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ในครั้งนั้น นช.ทักษิณพูดเสียงดังกรณีนางสาวกมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ว่า “เราต้องฟังประโยชน์ส่วนใหญ่และให้ส่วนน้อยยอมเสียสละ”
จากนั้น นช.ทักษิณก็มาตอกย้ำอีกครั้งในการชุมนุมเนื่องในโอกาสเผา บ้าน เผาเมืองที่แยกราชประสงค์ว่า “ถ้ามีการปรองดองเมื่อไหร่ ผมก็คงได้มีโอกาสกลับไปตอบแทนบุญคุณพี่น้อง แต่ถ้าพี่น้องไม่เอาปรองดอง ให้ผมอยู่เมืองนอกไปก็ไม่ว่าอะไรแต่ต้องหยุดตั้งสติคิดว่าแล้วใครได้ ใครเสีย รบต่อไปพ่อค้าอาวุธรวยอย่างเดียว การโฟนอินครั้งนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วเพื่อเราจะได้ไปร่วมกันรักษาสถาบันชาติ ศาสนาและกษัตริย์ และสถาบันประชาธิปไตยของเรา”
แถม นช.ทักษิณยังชักแม่น้ำทั้งห้าในเรื่องวิธีการปรองดองเพื่อล้างสมองงคนเสื้อแดงอีกต่างหากว่า “ ผมรู้ดีครับว่าพวกเราบางส่วนเจ็บปวด ไม่พอใจ แต่เรื่องส่วนตัวบางเรื่องก็ต้องเก็บไว้ ต้องเอาส่วนรวมเป็นหลัก ความเข้าใจผิดกันหลายเรื่องต้องยุติ มองไปข้างหน้าดีกว่า ผมต้องขออภัยในสิ่งที่พูดแล้วอาจทำให้บางคนไม่พอใจ แต่ผมก็พูดตรงไปตรงมา คิดอะไรก็บอกตรงๆ อาจมีคนไม่พอใจหรือพอใจ แต่ผมมองภาพรวม ไม่ใช่มองที่ปัจเจกบุคคล ผมคิดในภาพรวม…วันนี้พี่น้องแจวเรือพาผมถึงฝั่งแล้ว เวลานี้ผมจะขับรถขึ้นเขา ผมก็ยังไม่ลืมคนขับเรือมาส่งผม วันนี้ เราได้ทำหน้าที่มาสุดทาง”
นี่คือการประกาศจุดยืนของ นช.ทักษิณที่ชัดเจนยิ่งต่อหน้าที่ประชุมของมวลมหาประชาชนคนเสื้อแดง ซึ่งเสมือนหนึ่งเป็นการประกาศให้คนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหวหลังจากที่ขับเรือพาเขามาถึงฝั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นการสื่อสารให้สังคมได้รับทราบว่า ความขัดแย้งระหว่างเขากับ “อำมาตย์” ได้ยุติลงแล้ว
ดังนั้น นับจากนี้เป็นต้นไปคนเสื้อแดงกรุณาอย่าลุ่มหลงมัวเมากับวาทกรรม “ไพร่-อำมาตย์” หรือ “สองมาตรฐาน” อีกต่อไป
ส่วนใครที่ “ตาย” หรือ “บาดเจ็บ” ก็ต้อง “เสียสละ” ไม่เช่นนั้น พ.ร.บ.ปรองดองก็ไม่เกิด นช.ทักษิณก็ไม่ได้กลับบ้าน
ด้วยเหตุดังกล่าว การที่ “นายใจ อึ๊งภากรณ์” อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลุกขึ้นมาก่นด่าด้วยความเจ็บปวดและผิดหวังจึงไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นตรรกะที่ผิดเพี้ยน
นายใจ เขียนบทรำพึงผ่านเว็บไซต์ประชาไทว่า
“ทักษิณกำลังอาศัยอีโก้ อันยิ่งใหญ่ของตนเอง เพื่อบิดเบือนประวัติศาสตร์คนเสื้อแดงอย่างรุนแรง เพราะถึงแม้ว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จะรักทักษิณ แต่คนเสื้อแดงไม่ได้ออกมาสู้กับทหารและประชาธิปัตย์เพื่อทักษิณ เขาออกมาสู้เพื่อให้เขามีสิทธิเสรีภาพที่จะเลือกรัฐบาลที่ตนเองต้องการโดยไม่มีการแทรกแซงจากทหารหรือคนอื่นๆเขาออกมาสู้เพื่อยุติอำนาจมืดในสังคมของอำมาตย์ เขาออกมาสู้เพื่อให้มีเสรีภาพในการพูดเขียน และแสดงความเห็น และเขาออกมาสู้เพื่อให้ตนเองดำรงอยู่ในสังคมที่มีความเป็นธรรม ทั้งทางเศรษฐกิจและทางกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้องการที่จะมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แทนการเป็นไพร่”
อาจารย์ใจไปมุดศีรษะอยู่ที่ไหนมาจึงได้เข้าใจอะไรผิดเช่นนี้ เพราะความจริงก็คือ คนเสื้อแดงส่วนใหญ่คือมวลชนที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ นช.ทักษิณต่างหาก มิได้ต้องการจะมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ประการใด
ที่สำคัญคือ นช.ทักษิณมิได้มีความคิดประชาธิปไตยอย่างที่อาจารย์ใจปรารถนาแต่ประการใด หากแต่สิ่งที่ทั้งหลายทั้งปวงที่เขาทำก็เพื่อต้องการกลับบ้านโดยไม่ต้องรับโทษและได้ทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไปกลับคืนมา....เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าว อาจารย์ใจคงต้องไปอ่านข้อเขียนของ “นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” นักวิชาการแดงที่สรุปสถานการณ์เอาไว้ว่า
“(1)ตกลงว่า รัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งรวมถึง ส.ส.ที่คุมสภาอยู่ และนปช.ที่มีแกนนำเป็น ส.ส.จำนวนมาก จะผลักดันให้มีการปรองดองที่ให้อภัยทุกฝ่าย ไม่มีการลงโทษฝ่ายใดเลย โดยเฉพาะฝ่าย จนท.รัฐในการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ใช่หรือไม่?
(2) ตกลงว่า จะไม่มีการทำอะไรกับนักโทษการเมืองที่อยู่ในคุกหรือที่มีคดีติดตัวอยู่เลย จนกว่าจะมีการผลักดันในข้อ(1) พร้อมๆ กันไป ใช่หรือไม่?
(ถ้าจะมีประเด็นที่(3) อีกประเด็นคือเรื่องนักโทษ 112 แต่เรื่องนี้คิดว่าที่ผ่านมาในแง่รัฐบาลคงตอบไว้ชัดเจนแล้วคือ ไม่ยุ่งเกี่ยวและต่อให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองตาม(1)และ(2) ก็คงไม่รวมคดี 112) เพราะนั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากคำประกาศของ นช.ทักษิณ
และด้วยเหตุดังกล่าวอาจารย์ใจคงต้องไปอ่านข้อเขียนในเฟซบุ๊กของดาราแดงที่มีชื่อว่า “นายโด่ง-อรรถชัย อนันตเมฆ” เพราะเขาสรุปเอาไว้ชัดเจน
“จะไปบ่นไปทำไม เกรงใจเขามั่ง เขาถึงที่เขาแล้วจะให้เขาส่งจนถึงยอดเขาเลยเหรอ อย่าเลย เกรงใจ มาส่งแค่นี้ก็ดีแล้ว ใช่ว่า ไม่มีเขาแล้วเราจะเดินเองไม่ได้ ความจริงที่ผ่านมาเราก็รบกวนเขามากนะ ไม่มีพวกเขา เราคงจะยังโง่กับเมืองไทยไปอีกหลายชาติ คงหลับใหลฝันร้ายไปอีกนาน เอาน่า เขาจะปลุกเราขึ้นมาแล้ว จะขึ้นมาเพื่อใคร เพื่ออะไร ช่างมันเถอะ ว่าแต่ว่าเราตื่นแล้ว ยักษ์อย่างเราขอแค่ปลุกเท่านั้นละ ที่เหลือ ไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรง ขอบคุณนะที่ปลุก เราตอบแทนที่คุณปลุกเราไปแล้วนะ ดูจะเกินราคาเสียด้วยซ้ำ ไม่เป็นไร เรื่องเล็ก จากนี้ไปไม่มีอะไรติดค้างนะ โชคดี”
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือก่อนหน้านี้ นายใจ นายสมศักดิ์และนายโด่งไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้ว่า “จิตวิญญาณของแดงแท้คืออะไร”
หรือนายใจ นายสมศักดิ์และนายโด่งรู้แต่แกล้งโง่ หรือรู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก เพื่อมั่วนิ่มผสมโรงสร้างชื่อให้กับตัวเองเป็นสำคัญ
นายใจ นายสมศักดิ์และนายโด่งจะมาตีอกชกตัวขยายความโง่ของตัวเองที่ถูก นช.ทักษิณหลอกกระนั้นหรือ
ในเมื่อนายใจ นายสมศักดิ์และนายโด่งประกาศตัวว่าเป็นคนเสื้อแดง เป็นนักวิชาการ เป็นดาราของระบอบทักษิณ ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับการตัดสินใจ ของตนเองต่อไป ไม่มีสิทธิมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากนายใหญ่
นายใจ นายสมศักดิ์และนายโด่งที่เพิ่งถูก นช.ทักษิณถีบหัวส่งคงต้องเลือกเอาว่าจะเป็น “หมา” หรือเป็น “เสือ”
---------------------------
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งอันเนื่องมาจากการปาฐกถาครั้งใหญ่ในที่ประชุมมวลมหาประชาชนคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมาก็คือ ทำไม นช.ทักษิณถึงตัดสินใจถีบหัวส่งคนเสื้อแดง
ประเด็นแรก ว่ากันว่า การเร่งรีบปรองดองของ นช.ทักษิณเป็นผลมาจากอาการเจ็บป่วยที่กำลังเดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญว่าจะอยู่หรือจะไป เพราะถ้าการ “ฝังแร่” รักษาไม่ได้ผล ไม่เกิน 3 เดือน 6 เดือนนี้ นายใหญ่ของคนเสื้อแดงอาจจะไม่ได้กลับบ้านอย่างที่ตั้งใจไว้
ประเด็นที่สอง เป็นเพราะ นช.ทักษิณเชื่อว่าเขาสามารถควบคุมแกนนำคนเสื้อแดงเอาไว้ในมือได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดงและ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงและว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ฯลฯ
คนเหล่านี้คือข้าทาสบริวารที่จงรักภักดีต่อ นช.ทักษิณหมดหัวใจ ไม่เช่นนั้นหลังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คนเหล่านี้คงไม่ดาหน้าและด้านหน้ากันออกมาแก้ตัวในฉับพลันทันทีเช่นนี้
ยิ่งสำหรับ “เหวง” นพ.เหวง โตจิราการด้วยแล้วยิ่ง ต้องบอกว่าพร่ำเพ้อ และเลอะเทอะไปกันใหญ่ เพราะเป็นคำแก้ตัวที่สุดแสนจะเหวงยิ่งนัก
การที่หมอเหวงเตือนคนเสื้อแดงที่วิพากษ์วิจารณ์นายทาสของตัวเองในทำนองว่า ไม่เหมาะสม เพราะฝ่ายตรงข้ามยังมีความเคลื่อนไหว ดังนั้น จงอย่านำความขัดแย้งภายในให้ขยายตัวเป็นเชิงปรปักษ์ต่อกันนั้น สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความจงรักภักดีที่หมอเหวงมีต่อประมุขรัฐไทยใหม่ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ สิ่งที่หมอเหวงพยายามตีความหรือบิดเบือนคำปราศรัยของ นช.ทักษิณไปในทางที่ดีว่า การปรองดองของ นช.ทักษิณหมายถึงการหาข้อเท็จจริง เอาคนผิดมาลงโทษ จึงจะปรองดองกับผู้สูญเสียได้ ก็เป็นคำพูดแก้ตัวแทนนายแบบขอไปที หาได้มีตรรกะหรือข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติแต่ประการใด
คำถามที่มีต่อหมอเหวงก็คือ ในเมื่อ นช.ทักษิณจะปรองดองแล้ว จะไปไล่บี้ตามหาคนทำผิดหรือคนที่ทำให้คนเสื้อแดงตายมาทำพระแสงของ้าวอะไร เพราะถ้านช.ทักษิณอยากจะลากคอมาลงโทษจริง นช.ทักษิณจะไม่มีทางขอร้องให้ญาติคนตายและญาติคนเสียชีวิตเสียสละเพื่อส่วนร่วมเด็ดขาด
หรือหมายความว่า นับจากนี้ไปคนเสื้อแดงโปรดอย่ามาทวงถามหาคนผิดอีก จงท่องบ่นคำว่า เสียสละและรับเงินหรือตำแหน่งที่จะสรรหามาให้เป็นการทดแทน
หรือหมอเหวงมั่นใจว่าคนเสื้อแดงโง่ จึงสำรากถ้อยคำอธิบายออกมาอย่างไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาใจนายเช่นนี้
ขณะที่กล่าวสำหรับ ฯพณฯ จตุพร พรหมพันธุ์นั้น นช.ทักษิณก็ฉลาดพอที่จะหยอดคำหวานและสร้างความฝันให้คางคกขึ้นวออย่างรู้งาน เพราะท่ามกลางรอยปริร้าวที่เกิดขึ้นในหมู่คนเสื้อแดงนั้น เดอะคางคกคือบุคคลสำคัญที่จะสามารถสร้างวาทกรรมล้างสมองคนเสื้อแดงให้คล้อยตามได้
และเชื่อขนมกินได้ว่า ในการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น แกนนำเสื้อแดงคนสำคัญอย่าง “นายจตุพร พรหมพันธุ์” จะสามารถ “ขึ้นวอ” รั้งตำแหน่งรัฐมนตรีตามก้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้ออย่างไม่พลิกโผ
ถึงตรงนี้ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่า “นช.ทักษิณ ชินวัตร” จะพูดอะไร ทำอะไร ขอร้องอะไร คนเสื้อแดงแท้ๆ ก็ไม่มีวันที่จะโกรธและเกลียดหรือกลับหลังหันให้ประมุขแห่งรัฐไทยใหม่ของพวกเขาอย่างแน่นอน
เหมือนดังเช่นที่รมช.ณัฐวุฒิประกาศเอาไว้ว่า “ท่านยังเป็นที่ศรัทธาของคนเสื้อแดงเหมือนเดิมและยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานประจักษ์ชัดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นนายกฯ ที่ต้องหยิบยื่นความยุติธรรมให้ ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับคนเสื้อแดงไม่เปลี่ยนแปลง”
ดังนั้น ไม่ว่านายใจ อึ๊งภากรณ์หรือแกนนำคนเสื้อแดงบางปีกจะกล่าวโจมตี นช.ทักษิณอย่างใด ก็มิอาจทำให้คนเสื้อแดงหลุดพ้นจากโคลนตมโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำได้ 555
เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนเสื้อแดงจมปลักอยู่กับวาทกรรมโฆษณาชวนเชื่อจนยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อประมุขแห่งรัฐไทยใหม่ของพวกเขา
ที่สำคัญคือ นช.ทักษิณได้ประกาศให้คนเสื้อแดงรับรู้แล้วว่า ใครก็ตามที่รับใช้เขาคือ “แดงแท้” ส่วนพวกที่มีปัญหาและกำลังเป็นโรคเบื่อทักษิณคือ “แดงเทียม” ที่วันนี้เขาพร้อมจะตัดหางปล่อยวัด เพราะภารกิจการปรองดองระหว่างประมุขรัฐไทยใหม่กับอำมาตย์ได้เจรจาต้าอ่วยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พุทโธ่ พุทถัง ใครเล่าจะเป็นอย่าง “บก.ลายจุด-สมบัติ บุญงามอนงค์” ที่ออกอาการเสียอกเสียใจขนาดหนักถึงขนาดรำพึงรำพันว่า คนเสื้อแดงกำลังเป็นโรคเบื่อทักษิณ และปรี๊ดแตกด้วยการให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่า
“ผมปรี๊ดแตกมากนะ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าเสื้อแดงเหมือนเรือ แล้ววันนี้ขึ้นฝั่งแล้ว ... เรือก็อาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ผมว่าเขาหลงตัวเองมากไป !”
http://astv.mobi/ARSTXTR
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก