วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ยิ่งลักษณ์ จอมสร้างภาพ






พอดีผมได้อ่านบทความหนึ่งในแนวหน้าเขียนโดย นายซื่อตรงรักเมืองไทย เขาเขียนบทความนี้ได้ชัดเจนอ่านง่าย เข้าใจง่าย

ก็เลยอยากนำมาแชร์เก็บไว้ และอยากให้ได้อ่านกันเยอะ ๆ ครับ


------------------------------

นักสร้างภาพ




สิ่งที่เป็นภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์สร้างขึ้น เทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

(1) ว่าคนอื่นว่า“ดีแต่กู้” แล้วสร้างภาพว่าตนเองช่วยประหยัดงบประมาณ? 

ทำงบขาดดุลงบประมาณน้อยลง เอาเข้าจริงคือ มีการกู้เงินนอกระบบ ทั้งโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้าน และพรก.กู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท

รัฐบาลบีบน้ำตาสร้างภาพว่าต้องเร่งออกพรก.น้ำ 3.5แสนล้านแก้น้ำท่วม แต่เอาเข้าจริง 2 ปีผ่านไปก็ไม่ได้ทำ กลายเป็นออกพระราชกำหนดโครงการก่อสร้างทั่วไป แต่เลี่ยงการตรวจสอบตามระบบงบประมาณปกติผ่านสภา

จนมาแผนแตกเมื่อฝ่ายค้านและภาคประชาชนจับได้ว่า มีการออกประกาศให้ยกเว้นระเบียบพัสดุและไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอ ป.ป.ช.แต่สร้างภาพทำทีไปปรึกษา ป.ป.ช.แล้วนำมาอ้าง 

นอกจากนี้เมื่อองค์กรภาคประชาชนฟ้องศาลปกครอง ถึงได้รู้ว่ามีการเลือกพื้นที่ทำแบบไม่ถามชาวบ้าน ไม่ทำประชามติผลกระทบจากการสร้างเขื่อน เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบภาคประชาชนอีกขั้น



(2) สร้างภาพว่าเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก เดินทางรอบโลกเพื่อเจรจาการค้า ส่งออกรุ่งเรือง ประเทศได้ประโยชน์ ?

ส.ว.สมชาย แสวงการ เคยสรุปมาแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือเป็นผู้นำประเทศที่เดินทางไปต่างประเทศติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก รองจากนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายจอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ 

ขณะที่รมว.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกมาบอกว่า การที่นายกฯยิ่งลักษณ์เดินทางไปรอบโลกจำนวนประเทศมากกว่าอดีตนายกทุกคน นี่คือผลงาน??

ข้อเท็จจริงคือ ส่งออกถดถอยลงอย่างน่าตกใจ จากตัวเลขการส่งออกและนำเข้าพบว่า ปี 2555 ขาดดุลการค้า 20,751.8 ล้านเหรียญสหรัฐ 7 เดือนแรก ของปี 2556 ขาดดุลการค้าไปแล้ว 18,052.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 593,072 ล้านบาท

และไทยขาดดุลการค้ากับจีนสูงเป็นประวัติการณ์โดยมีตัวเลขส่งออกหดตัวต่อเนื่อง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าลดต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน หนี้สาธารณะพุ่ง ในยุคที่ประเทศไทยมีปัจจัยทางเศรษฐกิจ ณ วันรับตำแหน่งดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

ซึ่งการทัวร์รอบโลก 52 ครั้งใน 42 ประเทศนั้น มากกว่าจำนวนจังหวัดที่นายกฯเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และมากกว่าจำนวนที่เข้าประชุมสภาเพื่อรับฟังปัญหาประชาชนอีก

ในขณะที่เป็นที่น่าสังเกตว่าในหลายประเทศที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปจะมีทริปพิเศษของพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปก่อนหรือหลังในช่วงเวลาเดียวกันทับประเทศเดียวกันหลายครั้งอย่างน่าคิด



(3) ปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งแผ่นดิน รัฐบาลก็พยายามสร้างภาพว่าประชาชนคิดไปเอง

ตอนหาเสียงบอกจะกระชากค่าครองชีพ จะทำให้ราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ ลดลง เอาเข้าจริงหากเทียบราคาสินค้าตั้งแต่เดือนส.ค.54 ซึ่งเป็นเดือนแรกที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศ ถึงวันที่ ก.ย.56 ปรากฎว่า ราคาขายปลีกของอาหารสดแพงขึ้น 25-30%

และไม่ใช่อยู่ๆสินค้าแพงขึ้นเองหรือมีปัญหาค่าเงิน หากแต่เพราะต้นทุนผู้ประกอบการที่สูงขึ้น ทั้งจากนโยบายค่าแรง 300 บาท และต้นทุนสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นโดยรัฐไม่เข้ามาควบคุม

ในทางตรงกันข้าม ที่เคยหาเสียงว่าจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้น แต่ผลที่เกิดคือ ราคายางพาราตกต่ำ ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ มีราคาข้าวอย่างเดียวที่สูงขึ้นแต่ก็เป็นการเอาเงินภาษีจากกระเป๋ารัฐบาลไปฝืนตลาดรับซื้อขาดทุนมาอยู่ดี

หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นกระฉูดตั้งแต่ปี 2555 ร้อยละ 5.7 มาปี 2556 ขึ้นไปแตะระดับร้อยละ 12



(4) สร้างภาพว่าโครงการจำนำประสบความสำเร็จ ชาวนารวยขึ้น ประเทศกำไร เอาเข้าจริงโรงสีรวย ชาวนาได้รับเงินไม่เต็มหน่วย พบช่องทุจริตครบวงจร แต่นายกทำเป็นไม่รู้เห็น?

สร้างภาพว่าขายข้าวได้ย้ำตลอดว่า ไม่ขาดทุน แต่ผลที่เกิดคือโครงการจำนำล้มเหลวกระบวนการไม่หมุนเวียนอย่างที่คิด รัฐขายข้าวแทบไม่ได้ ที่ขายได้ก็ขาดทุนยับ ที่เหลือก็เหลือสะสมจนเป็นต้นทุนที่ต้องแบกอีกมากมาย ทั้งค่ารักษาและค่าเก็บ ยังไม่นับความรั่วไหลจากกรณีทุจริตตลอดกระบวนการจนทำให้ตอนนี้รัฐไม่มีเงินหมุนเวียนในโครงการ ติดลบเป็นแสนล้าน

และนับเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกที่ทำให้ประเทศไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวเป็นครั้งแรก แพ้เวียดนาม อินเดียอย่างน่าอนาถ




(5) สร้างภาพว่าจะไม่ทำเพื่อพี่ชาย? 

โดยตั้งแต่เมื่อครั้งหาเสียง54 ทั้งประกาศว่า จะแก้ไขไม่แก้แค้น และประกาศทำนองว่าจะไม่ทำเพื่อพี่ชาย จะไม่นิรโทษกรรมให้ทักษิณใช่หรือไม่

แต่สุดท้ายเกิดอะไรขึ้น มีความพยายามจะช่วยล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณในหลายทางใช่หรือไม่ ตั้งแต่ แก้ไขรัฐธรรมนูญล้างอำนาจคตส.เพื่อล้างความผิดพ.ต.ท.ทักษิณ?

พ.ร.บ.นิรโทษกรรม (รอบแรก) ,พรฎ.อภัยโทษ และพ.ร.บ.ปรองดองฯ ก่อนจะมาเป็นพรบ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยฉบับสุดท้าย



(6) สร้างภาพว่าตนถูกรังแก กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม องค์กรอิสระไม่ดี?

ตลอด 2 ปีกว่าของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย นปช.หรือกลุ่มสนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

โดยเฉพาะ ป.ป.ช.รวมถึงองค์กรรัฐที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อฝ่ายการเมืองอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย โดยที่นายกฯไม่ปฏิเสธหรือจัดการใดๆ ต่อการที่คนรอบตัวปฏิเสธคำตัดสินต่างๆ?

ทั้งที่เอาเข้าจริงพบว่า มีกรณีอย่างเช่นเมื่อครั้งพรก.3.5แสนล้านที่ฝ่ายค้านร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่ผลให้รัฐบาลเป็นฝ่ายชนะ ครั้งนั้น รัฐบาลกลับยอมรับกระบวนการตัดสินเพราะตนเองได้ประโยชน์ใช่หรือไม่

2 ปีกว่าที่เข้าสู่การเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ของจริงก็ได้ลบภาพแรก และเครดิตรต่างๆไปไม่น้อย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่งเปิดรับการแสดงความคิดเห็นครับ ทุกความเห็นคือกำลังใจ
แล้วอย่าลืมแวะไปที่บล้อคมุมมอง-ใหม่เมืองเอกนะครับ ขอบคุณ/ใหม่ เมืองเอก